ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 2, 2015 10:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส Gold ราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.90 ดอลลาร์ หรือ 1.77 % สู่ระดับ 1,204.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตอบรับการประกาศตัวเลขยอดการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดย ADP ที่ออกมาเพิ่มขึ้นเพียง 189,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และยังเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว ในขณะที่ตัวเลข PMI ภาคการผลิตก็ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์เช่นกัน แนวโน้มในวันนี้คาดการณ์ว่าจะยังมีแรงส่งให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านเดิมอีกครั้ง แต่แนวโน้มโดยรวมยังเป็น sideway และกองทุน SPDR ไม่ได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มเติม จึงควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน นอกจากนี้นักลงทุนทองคำในประเทศควรติดตามค่าเงินบาทประกอบการพิจารณาการลงทุนด้วย หลังค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่า ดัชนีดาวโจนส์ ปิดลดลง 77.94 จุด หลังตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐหลายตัวออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า USD/THB ปิดที่ 32.47 บาทต่อUSD ค่าเงินบาทเริ่มส่งสัญญาณแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำในประเทศ Oil ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นแรงหลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐดิ่งลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน Market Movement Gold ราคาทองคำปิดที่ 1,204.00 USDต่อออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,180.25 – 1,208.90 เช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 1,203 USDต่อออนซ์ คาดว่าจะมีแนวรับบริเวณ 1,197/1,190 แนวต้านบริเวณ 1,210/1,220 USD/THB ปิดที่ 32.53 บาทต่อUSD เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 32.51 บาทต่อUSD วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 32.5 / 32.6 ให้แนวรับบริเวณ 32.4 / 32.3 ICE Brent ปิดที่ 57.10 USDต่อบาร์เรล วันนี้ให้แนวต้านบริเวณ 58.0 / 59.0และให้แนวรับบริเวณ 56.0 / 55.0 Technical Commentary ภาพกราฟทางเทคนิค ราคาทองคำในกราฟราย 240 นาที ดีดตัวขึ้นหลังจากเกิด Bullish Divergence ใน RSI ขึ้นเมื่อวานนี้ แนวโน้มของราคายังมีโอกาสดีดตัวขึ้นได้ต่อ คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,210 อีกครั้ง แต่ควรระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจาก RSI อยู่ในเขต overbought แล้ว หากไม่ผ่านแนะนำขายทำกำไร Strategy : Trading ในกรอบ ค่าเงินดอลลาร์ในกราฟราย 240 นาที ทรงตัวอยู่บริเวณเดิม แต่ macd ส่งสัญญาณอ่อนแรงตัดเส้น signal line ลงมา ทำให้ราคามีโอกาสอ่อนตัวลง ให้แนวต้านบริเวณ 98.5 / 99.0 ให้แนวรับบริเวณ 97.8 / 97.0 Strategy: trading short Key Point ปัจจัยที่ต้องติดตาม 2 เม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ข่าวในประเทศ พาณิชย์เผยเงินเฟ้อเดือน มี.ค.ร่วง -0.57% เมื่อเทียบรายปี หดตัว 3 เดือนติดต่อกัน และเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 66 เดือน เพราะราคาน้ำมันลด แต่ราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้น พร้อมยืนยัน ไม่เกิดภาวะเงินฝืด เพราะประชาชนยังจับจ่าย แต่คาด เงินเฟ้อต่ำถึงไตรมาส 2 ไทยและญี่ปุ่นเตรียมเซ็น MOU ปลดล๊อกเที่ยวบินเช่าเหมาลำวันนี้ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.- 31 พ.ค. เศรษฐกิจโลก จีนอนุมัติให้เยอรมนีเข้าเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย(AIIB) แล้ว ขณะที่ยังเหลือชาติที่รอการอนุมัติสถานภาพอีก 16 ประเทศ รวมทั้งอิสราเอลด้วย โดยจะมีการยืนยันรายชื่อสมาชิกขั้นสุดท้ายในวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งมีจีนเป็นผู้นำแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) สาขาแอตแลนตา เดนนิส ล็อคฮาร์ท กล่าวว่า Fed มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย. เนื่องจากคาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงต่อไป แม้ว่าเศรษฐกิจในไตรมาสแรกมีความอ่อนแอก็ตาม เช่นเดียวกับความเห็นของประธาน Fed สาขาริชมอนด์ เจฟฟรีย์ แล็คเกอร์ ที่คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ ดังนั้น Fed จึงควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยเร็ว เศรษฐกิจสหรัฐ ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 189,000 ราย ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีที่แล้ว เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิต โดย ISM อยู่ที่ 51.5 ในเดือน มี.ค. ลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน จากระดับ 52.9 ในเดือน ก.พ. แต่ยังบ่งชี้ถึงการขยายตัว เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย โดย Markit ประจำเดือน มี.ค.อยู่ที่ 55.7 เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 55.1 ในเดือน ก.พ. เศรษฐกิจยุโรป ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 52.2 ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 10 เดือน จาก 51.0 ในเดือน ก.พ. โดยได้แรงหนุนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีที่ปรับขึ้นแตะ 52.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2557 จากจำนวนธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือน เม.ย.2557 และบริษัทต่าง ๆ มีการจ้างงานสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีครึ่ง ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นแตะ 48.8 ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอิตาลีเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2557 ที่ 53.3 และดัชนี PMI ภาคการผลิตของสเปนก็ขยับขึ้นเล็กน้อยมาแตะ 54.3 ตลาดน้ำมัน สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 471.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยสต็อกน้ำมันดิบที่จุดส่งมอบน้ำมันเมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 58.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน แต่สต็อกน้ำมันเบนซิน ลดลง 4.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 229.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับต่ำสุดในปีนี้ ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมัน เพิ่มขึ้น 0.4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ