บล.ทรีนีตี้ มองดัชนีหุ้นไทยเดือนพฤษภาคม ผันผวนตามตลาดหุ้นทั่วโลก ให้กรอบแนวรับแรกที่ 1,480 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 8, 2015 13:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง บล.ทรีนีตี้ มองดัชนีหุ้นไทยเดือนพฤษภาคมปรับตัวผันผวนหนัก ในกรอบแนวรับแรกที่ 1,480-1,500 และกรอบแนวต้านที่ 1,530-1,550 จุด แนะกลยุทธ์นักลงทุนระยะกลาง หาจังหวะดัชนีอ่อนตัวแนวรับ ทยอยเก็บสะสมหุ้นแนะนำเพื่อรอขายช่วงปลายไตรมาสสอง นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพการลงทุนในเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่าดัชนี SET Index จะปรับตัวผันผวนค่อนข้างมาก โดยมองกรอบแนวรับแรกบริเวณ 1,480-1,500 จุด และกรอบแนวต้านบริเวณ 1,530-1,550 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของไทยในเดือนก่อนทำให้มูลค่าพื้นฐานของหุ้นหลายบริษัทมีโอกาสถูก Re-rated ขึ้นตามการขยายตัวของ Forward P/E (ปรากฏการณ์ PE expansion) และปัจจัยราคาน้ำมันที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้นสนับสนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรเคมีให้มีแนวโน้มปรับตัวดีกว่าตลาด (Outperform) ช่วยพยุงดัชนีในช่วงถัดไป ประกอบกับตัวเลขอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) สหรัฐอเมริกา ที่ออกมาย่ำแย่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) มีโอกาสจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากดดันจากปัญหาความกังวลความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซ หากการเจรจากับ Troika ยังคงยืดเยื้อและไม่มีข้อสรุป โดยกรีซจะต้องมีการจ่ายชำระดอกเบี้ยให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อีกครั้งจำนวน 763 ล้านยูโร ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ และจับตาหากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐอเมริกาที่จะประกาศในวันคืนนี้ (8 พ.ค.) ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด อาจทำให้เกิดจิตวิทยาเชิงลบ เพราะตลาดจะคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์สหรัฐอเมริกา (Fed fund) เร็วขึ้น รวมถึงการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกดดันต่อส่วนต่างผลตอบแทน (Earning yield gap) ของ SET Index ให้ลดลง สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ หากขึ้นให้ขาย และลงให้ซื้อ ตามกรอบแนวรับแรกที่ 1,480-1,500 และกรอบแนวต้านที่ 1,530-1,550 จุด โดยหากดัชนีปรับตัวลงสู่แนวรับ มองเป็นจุดเริ่มทยอยสะสมหุ้นสำหรับนักลงทุนระยะกลางเพื่อรอไปขายช่วงปลายไตรมาสที่ 2/2558 ส่วนหุ้นแนะนำสำหรับเดือนพฤษภาคมนี้ ให้เปลี่ยนหุ้นลงทุน โดยออกจาก TMB, THAI, ROBINS, SGP, MONO, KKP, FOCUS เพื่อเข้าลงทุนใน ADVANC, BANPU, PS, HANA, PTT, TISCO, EVER แทน รวมกับหุ้นอีก 13 บริษัท ที่ยังคงคำแนะนำ ได้แก่ IRPC, IFEC, ITD, TCAP, BJCHI, JMT, TPCH, WHA, TRUE, SUPER, GL, CPF, TPIPL

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ