กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
ศาสตราจารย์ ดร. อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (ปลัด วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะทีมไทยแลนด์ได้ร่วมกันส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสู่ตลาดโลก ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ ๖๘ สาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อพัฒนาการผลิตภาพยนตร์ให้มีคุณภาพระดับสากล เสริมสร้างบุคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซี่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี โดยกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การเจรจาธุรกิจในระดับนานาชาติ การเชิญชวนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย และการเปิดศาลาไทย (Thailand Pavilion) บริเวณหมู่บ้านนานาชาติ (International village) เพื่อให้ข้อมูลกับผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เข้ามาร่วมงานจากทั่วโลก และมีพิธีเปิดศาลาไทยอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ และจัดงานเลี้ยงของประเทศไทย Thai Night โดยมีทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ ราชกัญญา สิริวัฒนนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน ณ โรงแรม Majestic Hotel ในวันศุกร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘
ปลัด วธ. กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยอย่างเต็มรูปแบบ กระทรวงวัฒนธรรมยังได้เปิดเวทีเจรจาหาทุนในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ หรือ Thai Pitch 2015 โดยในปีนี้ได้คัดเลือกโครงการสร้างภาพยนตร์ ๓ ภาพยนตร์ จำนวน ๓ โครงการ ที่มีความเนื้อหา และเอกลักษณ์การเล่าเรื่องที่โดดเด่น มีความหลากหลาย ทั้งแนวภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ และเชิงศิลปะ
เพื่อดึงดูดนักลงทุน สถาบันการเงิน แหล่งเงินทุน จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสร้างภาพยนตร์ เรื่อง “สุริยา ลูกทุ่ง” ของวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เรื่อง “Uncle Ho” โดยสนานจิตต์ บางสะพาน และเรื่อง “ซิดนีย์” โดยนางสาววนัสนันท์ หุตเวช ตั้งแต่ปี ๒๕๔๓ ที่ผ่านมา มีโครงการที่สามารถหาทุนสร้างภาพยนตร์จนสำเร็จ และได้รับการเผยแพร่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง ปาดังเปซาร์ ไฮโซ และVanishing Point อีกทั้งยังได้จัดฉายภาพยนตร์ส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ วัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย เรื่องเส้นทางรัก (#Love En Route) และภาพยนตร์สั้นที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวด ได้แก่ เรื่อง 7 ½ และเรื่อง น่านในความทรงจำ (North Peace) อีกด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางในการนำภาพยนตร์ไทยร่วมเข้าประกวดในเวทีเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ คือ เรื่อง “รักที่ขอนแก่น” (Cemetery Splendour) ของนายอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยที่เคยได้รับรางวัลสุดของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ คือ รางวัล "ปาล์มทองคำ" ไปครอบครองได้สำเร็จ จากหนังเรื่อง "ลุงบุญมีระลึกชาติ"
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ อีกด้วย