“ถั่งเช่า” ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า ราชาแห่งสมุนไพรจีนมากสรรพคุณ

ข่าวทั่วไป Wednesday June 3, 2015 17:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--แมสคอท คอมมิวนิเคชั่น ในปัจจุบัน ถั่งเช่า (Cordyceps) หรือที่ถูกขนานนามว่าเป็น ราชาแห่งสมุนไพรจีน เป็นที่รู้จักและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้จะเป็นสมุนไพรที่หายาก และมีราคาสูง แต่ด้วยคุณประโยชน์มากมายที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย ช่วยลดอาการภูมิแพ้ อาการเหนื่อยล้า ลดระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เสริมภูมิคุ้มกันและสร้างสมดุลการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงมีสรรพคุณในการต้านมะเร็งอีกด้วย และยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของยาและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ หลายชนิด แต่การจะนำถั่งเช่ามาใช้ประโยชน์ หรือรับประทานนั้นจำเป็นที่ผู้ใช้ควรมีการศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้รอบด้านเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเสียก่อน นายแพทย์สุริยา ธีรธรรมากุล แพทย์ประจำศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ข้อมูลว่า ถั่งเช่า (Cordyceps) หรือ หญ้าหนอน จัดเป็นสมุนไพรจีนที่มีคุณสมบัติในการดูแลสุขภาพและมีสรรพคุณทางยาแผนโบราณที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตำราแพทย์ของจีนมาช้านาน ถั่งเช่าที่มีคุณภาพสูงจะพบได้จากแถบทุ่งหญ้าบนภูเขาของประเทศจีน ทิเบต เนปาล และภูฏาน ที่ระดับความสูง 10,000 -12,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ในปัจจุบันมีรายงานว่าถั่งเช่านั้นสามารถแยกออกได้ถึง 680 ชนิดตามความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์จะแยกจากตัวหนอนที่สปอร์ของเห็ดไปเจริญเติบโตอยู่ ซึ่งสายพันธุ์ที่มีความโดดเด่นและมีการศึกษามากที่สุดก็คือ Cordyceps Sinensis (Berk.) Sacc ซึ่งเป็นสายพันธุ์ของหญ้าหนอนที่พบบนเทือกเขาหิมาลัย ประเทศทิเบตนั่นเอง โดยหญ้าหนอนประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นตัวหนอนของผีเสื้อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus และส่วนของเห็ดชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cordyceps sinensis ในประเทศจีนจะมีคำอธิบายสมุนไพรชนิดนี้ว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” โดยหนอนชนิดนี้ในฤดูหนาวจะฝังตัวอยู่ใต้หิมะ เมื่อเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลและน้ำแข็งเริ่มละลาย สปอร์ของเห็ดจะถูกพัดไปกับน้ำแล้วไปตกอยู่ตามพื้นดิน ตัวหนอนเหล่านี้ก็จะกินสปอร์เข้าไปเมื่อถึงฤดูร้อนสปอร์ก็เริ่มเจริญเติบโตโดยอาศัยการดูดสารอาหารและแร่ธาตุจากตัวหนอนนั้นและเส้นใยของเห็ดก็จะเริ่มงอกออกจากตัวหนอน เนื่องจากเห็ดเหล่านี้ต้องการแสงอาทิตย์มันจึงงอกพุ่งขึ้นสู่พื้นดินโดยงอกออกจากปากของตัวหนอน ส่วนตัวหนอนเองก็จะค่อยๆ ตายไป อยู่ในลักษณะของหนอนตายซาก ดังนั้นถั่งเช่าที่นำมาใช้ทำเป็นยาก็คือ ส่วนผสมของตัวหนอนและเห็ดที่แห้งแล้วนั่นเอง สำหรับการนำมารับประทานนั้นมีทั้งรับประทานสดๆ นำมาต้ม หรือบดเป็นผงแล้วบรรจุในแคปซูล จากงานวิจัยมากมายเราพบว่าถั่งเช่าประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่สำคัญต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของสารต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด เช่น โปรตีน พอลิแซ็กคาไรด์ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน นิวคลีโอไซด์ หรือ สารประกอบ พิวรีน หรือ พิริมิดีนเบสที่ต่ออยู่กับน้ำตาลไรโบส และสเตอรอยด์ ปัจจุบันเริ่มมีการเพาะเลี้ยงถั่งเช่าเกิดขึ้น เนื่องจากมีความต้องการมาก แต่ประสิทธิภาพที่ได้ในด้านต่าง ๆ ก็ยังไม่เท่ากับถั่งเช่าที่เติบโตจากธรรมชาติโดยตรง มีการศึกษาหลายชิ้นทั้งที่ทำในสัตว์ทดลอง และในคน เกี่ยวกับผลทางชีวภาพและฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของถั่งเช่ามากมาย ซึ่งโดยสรุปพบว่าถั่งเช่ามีคุณสมบัติเด่นในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด มีการศึกษาในผู้ป่วยเบาหวาน 20 คนที่รับประทานถั่งเช่าปริมาณ 3 กรัม/วัน พบว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 95% ในขณะที่กลุ่มที่รักษาด้วยยาแผนปัจจุบันสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ 54%ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยทำการศึกษาในผู้ชาย 5 คน (อายุเฉลี่ย 35 ปี) ที่ถุงลมถูกกระตุ้นให้อักเสบ พบว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดการสร้างสารคัดหลั่งที่มีฤทธิ์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ส่งผลต่อการลดการอักเสบ และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น และยังมีงานวิจัยที่แสดงว่าสารสกัดจากถั่งเช่าสามารถกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดเซลล์เพชฌฆาต (NK cell) ซึ่งเป็นเซลล์หลักในการปกป้องร่างกายจากมะเร็ง ได้อีกด้วย ช่วยฟื้นฟูระบบการทำงานของไต โดยให้ผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรัง 51 คน รับประทานถั่งเช่าปริมาณ 3-5 กรัม/วัน พบว่าถั่งเช่าทำให้การทำงานของไตมีประสิทธิภาพดีขึ้น และพบว่าหลังจากให้ผู้ป่วยรับประทานถั่งเช่าต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 1 เดือน สามารถช่วยลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดจากภาวะไตวาย สามารถช่วยกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ มีกรณีศึกษาในผู้ชาย 22 คน ใช้ถั่งเช่าเป็นอาหารเสริม พบว่าช่วยเพิ่มจำนวนของสเปิร์มในอสุจิได้ 33% และมีผลลดปริมาณของสเปิร์มที่ผิดปกติลง 29% และมีงานวิจัยผู้ป่วยทั้งชายและหญิง 189 คน ที่มีความต้องการทางเพศลดลง พบว่าเมื่อได้รับถั่งเช่าเสริมสามารถช่วยทำให้อาการและความต้องการทางเพศสูงขึ้น 66% จนได้รับสมญานามว่า "ไวอกร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย" นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยสนับสนุนว่าการรับประทานถั่งเช่าจะช่วยปกป้องและช่วยให้การทำงานของต่อมหมวกไต ฮอร์โมนจากต่อมไทมัส และจำนวนของสเปิร์มที่สามารถปฏิสนธิได้เพิ่มขึ้น 300 % และช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศของผู้หญิงได้ 86% อีกทั้งยังช่วยต้านอาการอ่อนเพลียและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย ซึ่งมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นในสัตว์ทดลองที่พิสูจน์ว่าถั่งเช่าสามารถลดอาการอ่อนเพลียและสามารถประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายให้ทำงานได้นานขึ้นได้โดยเฉพาะในกลุ่มทดลองที่อายุมาก อย่างไรก็ตาม แม้ถั่งเช่าเป็นอาหารเสริมที่มีงานวิจัยสนับสนุนถึงคุณสมบัติที่ดีอย่างมากมาย แต่ในแง่ของผลข้างเคียงและความเป็นพิษนั้นยังถือว่ามีข้อมูลค่อนข้างน้อย ในบางรายนั้นอาจพบอาการปากแห้ง คลื่นไส้ ท้องเสีย อาจมีข้อควรระวังในการใช้อยู่บ้างในผู้ใช้บางกลุ่ม เช่น ในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดและอาจไปเสริมฤทธิ์กับยาลดน้ำตาลในเลือด เป็นต้น ดังนั้นการเลือกอาหารเสริมที่ผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้และผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากสมุนไพรชนิดนี้ได้ ผู้ที่ต้องการบริโภคควรมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ถึงความปลอดภัย ผลข้างเคียง และแหล่งที่มาของถั่งเช่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวผู้บริโภคเอง นพ.สุริยากล่าว โดย บริษัท แมสคอท คอมมิวนิเคชั่น จำกัด 02-732-6069-70

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ