เกษตรฯ แจง น้ำในเขื่อนไม่พอ วอนเกษตรกรร่วมมือ ด้านรัฐ เตรียมมาตรการสร้างรายได้-ลดค่าใช้จ่าย

ข่าวทั่วไป Friday June 12, 2015 16:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เผย ชาวนายังทำนาปรัง ส่งผลการปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือน้อยเพียง 3,800 ล้านลูกบาศก์เมตร แนะเกษตรกรงดกิจกรรมทางการเกษตรไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคมเพื่อรอปริมารน้ำที่เพียงพอ เผย กระทบจีดีพีภาคเกษตรลดลง ด้านภาครัฐเตรียมแนวทางกระตุ้นรายได้และลดค่าใช้จ่ายแล้ว นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ได้ออกประกาศประกาศงดส่งน้ำ สำหรับเพาะปลูกข้าวนาปรัง ในพื้นที่จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและแนะนำถึงปลูกพืชฤดูแล้งเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 นั้น ปรากฏว่า ยังมีชาวนาที่ฝ่าฝืนประกาศทำนาปรังไปรวมกว่า 6.87 ล้านไร่ทั้งนอกเขตและในเขตชลประทาน จากที่กำหนดไว้แค่ประมาณ 2 ล้านไร่ (นอกเขตชลประทาน) โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาในเขตชลประทานที่ให้งดทำนาปรัง พบว่ามีการปลูกถึง 3.78 ล้านไร่ จึงส่งผลให้การใช้น้ำในเชื่อนหลัก ทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีการใช้น้ำรวมทั้งสิ้น 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้เหลือน้ำในเขื่อนสำหรับการเพาะปลูกข้าวนาปีระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมนี้ เพียงประมาณ 3,800 ล้านลูกบาศก์เมตร ในเรื่องดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกข้าวนาปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กอปรกับปริมาณน้ำฝนของภาคกลางและภาคเหนือในปีนี้ที่คาดว่าจะต่ำกว่าเกณฑ์ ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดกิจกรรมการทางการเกษตรที่เคยดำเนินการไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคม เพื่อรอปริมาณน้ำฝนและน้ำในเขื่อนที่มีปริมาณเพียงพอต่อการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สนับสนุนให้เกษตรกรหันมาดำเนินกิจกรรมด้านอื่นๆ เช่น การเรียนรู้นวัตกรรมและองค์ความรู้ทางการเกษตรใหม่ๆ หรือผ่านศูนย์เรียนรู้การเกษตรแบบเบ็ดเสร็จ 882 ศูนย์ ทั่วประเทศ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะมีกิจกรรมให้เกษตรกรได้เลือก ทั้งการเรียนรู้ฟาร์มตัวอย่าง แปลงสาธิต การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ องค์ความรู้ด้านเมล็ดพันธุ์ เป็นต้น โดยสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจะมีการจัดทำโครงการต่างๆเพิ่มขึ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เลขาธิการ สศก. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ในส่วนของเงินทุนหมุนเวียนนั้นที่รัฐบาลได้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาทั่วประเทศที่ประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ประมาณ 60,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในมาตรการต่างๆ เช่น การลดต้นทุนการผลิต การช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิต และให้ ธ.ก.ส.สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนให้สหกรณ์การเกษตรและสถาบันเกษตรนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อ GDP ภาคเกษตรที่ลดลง ในช่วงระยะเวลาที่ขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการดำเนินกิจกรรมทางเกษตรไปจึงถึงต้นเดือนสิงหาคม 2558 ทั้งนี้ ภาครัฐ ได้มีแนวทางช่วยเหลือและมาตรการรองรับอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และแนวทางการลดค่าใช้จ่าย รวมทั้ง ทางกระทรวงพาณิชย์ได้มีการเตรียมแผนการช่วยเหลือแล้วในระยะต่อไป พื้นที่ (ไร่) ข้าวนาปี 2558/59 ภาพรวมทั้งประเทศ ผลผลิตต่อไร่(กก.) ผลผลิต (ตัน) ราคาขาย (บาท/เกวียน) มูลค่าทั้งสิ้น (ล้านบาท) 61,179,100 434 26,551,729 7,500 199,138 พื้นที่ (ไร่) ข้าวนาปี 2558/59 เฉลี่ยภาคกลาง (ลุ่มน้ำเจ้าพระยา) ผลผลิตต่อไร่(กก.) ผลผลิต (ตัน) ราคาขาย (บาท/เกวียน) มูลค่าทั้งสิ้น (ล้านบาท) 13,256,206 614 8,139,310 7,500 61,045 ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ( มิถุนายน 2558)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ