สูงสร้างได้ไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยสูตร “T-A-L”

ข่าวทั่วไป Friday June 19, 2015 11:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--Jee PR พ่อแม่หลายคนคงแปลกใจว่าเด็กบางคนสูงชะลูดทั้งๆที่พ่อแม่ตัวเล็กนิดเดียว หรือ ทำไมเด็กตัวเตี้ย แม้ว่าพ่อแม่จะตัวสูงใหญ่ก็ตาม เหล่านี้นับเป็นปัญหาโลกแตกที่หลายครอบครัวหนักใจต่างก็พยายามทำทุกวิถีทางให้ลูกตัวเองสูง เพราะความสูงถือเป็นใบเบิกทางไม่ว่าจะด้านการทำงาน กีฬา หรือ บุคลิกภาพความมั่นใจของเด็ก แต่ปัญหาที่ทำให้เด็กไทยเตี้ย ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ที่แนวคิดของพ่อแม่หรือตัวเด็กเองที่บอกเด็กว่ากระดูกปิดแล้ว เกินวัยแล้ว ไม่สามารถสูงขึ้นแล้ว แต่ด้วยความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันสามารถฉีกกฎความเชื่อเหล่านั้นได้ เพียงแค่มีความเชื่อว่าความสูงสามารถเพิ่มและพัฒนาขึ้นได้ หากแค่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและปฏิบัติตามผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกต้อง “ดิฉันศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความสูงมา 17 ปีแล้ว และได้ทดลองกับลูกชายสองคน กระทั่งลูกชายอายุ 19 ปี สูง 177 ซม. ส่วนคนเล็กอายุ 15 ปี สูง 185 ซม. ขณะที่เด็กที่เคยมาเข้าคอร์สของสถาบันพัฒนาความสูง ตั้งแต่ 8-9 ขวบ เคยทำสถิติสูงสุดถึง 20 เซนติเมตร” ดร.บัณลักข ถิรมงคล หรือโค้ชหมอหญิง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแพทย์ทางเลือกแขนงไคโรแพรคติก และผู้ก่อตั้งสถาบันพัฒนาความสูง Tall Can Do กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง “เพิ่มความสูง เพิ่มความสำเร็จให้ชีวิต” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความสูงสามารถเพิ่มขึ้นได้ โค้ชหมอหญิงกล่าวว่า การจะให้ลูกหลานสูง ครอบครัวมีส่วนสำคัญมาก รวมทั้งจิตใจกับอารมณ์และเป้าหมายของตัวเด็กเอง อันเป็นฐานรากในการเพิ่มความสูง พันธุกรรมไม่ใช่ปัญหาอะไร และคนเราสามารถสูงได้จนถึงอายุ 40 ปี และหลักในการเพิ่มความสูงอยากให้นึกถึงว่าถ้าจะสร้างตึกสัก 25 ชั้น สิ่งแรกที่จะต้องนึกถึงคือ ฐานรากฉะนั้นจิตใจกับอารมณ์จึงเป็นฐานรากสำคัญในการเพิ่มความสูง และตัวช่วยในการเพิ่มความสูง” ด้วยเหตุนี้ทางสถาบันพัฒนาความสูง Tall can do จึงมีความเชื่อว่าความสูงสามารถพัฒนาและเพิ่มขึ้นได้ โดยได้นำหลักทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และแพทย์ทางเลือกต่างๆ เข้ามาช่วย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จจากคนใกล้ตัวและคนที่เคยเข้ามาพัฒนาเพิ่มความสูง โดย ดร.บัณลักข เปิดเผยว่า สูตรเพิ่มความสูงของสถาบันนั้นใช้วิธีธรรมชาติ ไม่ใช้ยาหรือการผ่าตัดใดๆ หลักสำคัญคือ Tall System “T A L” อันประกอบด้วย - T คือ Touch and Connect ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ในบ้าน บางครั้งเด็กรู้ แต่ผู้ปกครองไม่รู้ ก็เหมือนกับคุยกันคนละภาษา ที่สำคัญพ่อแม่ต้องเห็น เพราะลูกไม่รู้หรอกว่า อนาคตจะเป็นยังไง - A ก็คือ Aim to tall อย่างบางคนก็ทำทุกอย่าง เช่น เล่นบาส หรือเล่นกีฬาอื่นๆ แต่ก็ต้องถามว่า มีใครเป็นต้นแบบ ไม่เช่นนั้นมันไปไม่ได้ ดังนั้น Aim to tall คุณต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจนก่อน ใครที่เป็นต้นแบบของคุณ อยากสูงเท่าไร เมื่อไร - L คือ leverage to Taller คือตัวช่วยที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งทางสถาบันพัฒนาความสูง Tall Can Do ใช้ศาสตร์ไคโรแพรคติกเข้ามาช่วยเพื่อปรับให้ระบบประสาททำงานเต็มที่ จากนั้นใช้กิจกรรมออกกำลังกาย โดยใช้แทรมโพลีนและเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ มาผสมผสานกัน การที่เด็กแต่ละคนจะสูงได้เท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย อาทิ การนอนหลับพักผ่อนเต็มที่ ซึ่งตามธรรมชาติโกรทฮอร์โมนจะหลั่งหลังพระอาทิตย์ตก 3 ชั่วโมง โดยจะมีช่วงเวลาพีคสุดคือตั้งแต่ 3 ทุ่มจนถึงเที่ยงคืน พร้อมกันนั้นจะต้องรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย “ถ้าเราจะให้ลูกหลานสูง ครอบครัวก็มีส่วนสำคัญ บางคนอาจจะสูง แต่อาจจะไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว แต่อาจจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสัตว์เลี้ยง เราก็สามารถที่จะใช้สัตว์เลี้ยงเป็น Levelest ได้เหมือนกัน การที่เด็กได้กอดสัตว์เลี้ยง หรือพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่น ก็จะทำให้เด็กได้วิ่ง ได้ออกกำลังกายไปด้วย” ดร.บัณลักข กล่าวว่า อย่างไรก็ตามต้องดูในเรื่องของปัจจัย เพศและวัยด้วย รวมทั้งดูว่าเด็กกระตือรือร้นมากน้อยแค่ไหนด้วย ซึ่งตัวเด็กเองจะต้องมีต้นแบบที่อยากจะสูงตามคนๆนั้น หรือตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่นบางคนอยากจะสูง 185 ซม. ขณะที่บางคนขอแค่175 ซม.ก็พอ นอกจากนี้เรื่องของความเครียดก็อาจทำให้ส่งผลกระทบต่อความสูงของเด็ก เช่น การเรียนที่หนักจนเกินไป เด็กเองก็รู้สึกว่าทำไมต้องเรียนหนักขนาดนั้น และพยายามมองหาอะไรที่เป็นอิสระ ดังนั้นจะต้องมีความพอเหมาะพอควร ถ้าเกิดความเครียดควรผ่อนคลายให้หายก่อน เพราะไม่จำเป็นต้องเครียดขนาดนั้น ร่างกายทำงานโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ควรปล่อยให้เป็นไปตามระบบ เดี๋ยวร่างกายจะสูงเอง “ช่วงปิดเทอมจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่เด็กจะสูง เพราะไม่เครียดจากการเรียนหนังสือหรือเรียนพิเศษอะไร การเจริญเติบโตจึงเป็นไปได้ด้วยดี เด็กที่มาเข้าคอร์สตั้งแต่ 8-9 ขวบ เคยทำสถิติสูงสุดถึง 20 เซนติเมตร นอกจากนี้พลังความรักของพ่อแม่จะช่วยให้ลูกๆ สูงขึ้นได้ โดยทำได้ง่ายๆ คือ กอดลูกบ่อยๆ ทุกวัน หอมแก้มลูกทุกวัน ให้พรลูกทุกวัน ไว้ใจและเห็นใจลูก และงดแสดงอารมณ์เสียใส่ลูก” สำหรับผู้ปกครองหรือน้องคนไหนอยากจะได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการเพิ่มความสูง นอกจากปัจจัยหลักอย่างการกิน การนอน การออกกำลังกายแล้ว เทคนิคการด้านจิตใจก็มีส่วนสำคัญ และหลักการใช้ TAL System ในการเพิ่มความสูงนั้นมีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไรก็สามารถสมัครเข้าร่วมการสัมมนาสูงสร้างได้ ตอน “Now You See Me” ในวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2558 เวลา 09.00 -17.00 น. ณ โรงแรงบางกอกชฎา ถนนรัชดาภิเษก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร 093-881-7761-2 www.TallCanDo.com หรือติดตามทาง Facebook/tallcandodspine
แท็ก ครอบครัว  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ