ก.ล.ต. ร่วมกับนิด้าเผยผลงานวิจัยชี้กองทุนหุ้นมีผลงานสม่ำเสมอหลายช่วงเวลา และผู้ลงทุนควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทุนรวม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 22, 2015 11:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--ก.ล.ต. ก.ล.ต. เผยแพร่ผลงานวิจัยโดยผู้วิจัยของ ก.ล.ต. และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในงานสัมมนาSEC Working Papers Forum ครั้งที่ 5/2558 ในหัวข้อ “ส่องฝีมือ กองทุนหุ้นไทยก.ล.ต. จัดงานสัมมนา SEC Working Papers Forum ครั้งที่ 5/2558 เผยแพร่ผลงานวิจัย 2 งาน โดยอาจารย์คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และผู้วิจัยจาก ก.ล.ต. ตามบันทึกความร่วมมือระหว่าง ก.ล.ต.กับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ 4 แห่ง เพื่อนำผลงานวิจัยไปพัฒนาตลาดทุน ในหัวข้อ “ส่องฝีมือ กองทุนหุ้นไทย” เผยผลการศึกษาเกี่ยวผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นไทยและข้อมูลที่ผู้ลงทุนควรทราบก่อนเลือกลงทุนในกองทุนรวม รองศาสตราจารย์ ดร. สรศาสตร์ สุขเจริญสิน ผู้วิจัยนิด้าในหัวข้อ “ความสม่ำเสมอของผลการดำเนินงานของกองทุนรวมตราสารทุน” เพื่อประเมินกองทุนรวมหุ้นไทยว่า มีผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอหรือไม่ โดยกองทุนรวมที่ดี นอกจากจะสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับเป้าหมายของผู้ลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้แล้ว ควรมีความสม่ำเสมอ (performance persistence) ในการรักษาระดับผลการดำเนินงานแต่ละปีให้สูงกว่า ผลตอบแทนการลงทุนมาตรฐานโดยผลการศึกษาพบว่า กองทุนรวมหุ้นไทยมีผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอในหลายช่วงเวลา ดังนั้น ผู้ลงทุนสามารถใช้ผลการดำเนินงานของกองทุนในอดีต เป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุนได้ อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความสม่ำเสมอของผลการดำเนินงานของกองทุนรวมในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ การศึกษาเปรียบเทียบผลการดำเนินงานกองทุนรวมในกลุ่มประเทศอาเซียน พบว่า กองทุนรวมตราสารทุนไทย มีผลการดำเนินงานที่มีความสม่ำเสมอมากกว่าประเทศอื่น นายชาญชัย เมธีพิทักษ์ธรรม ผู้วิจัย ก.ล.ต. เปิดเผยถึงผลงานวิจัยในหัวข้อ ผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นไทยกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทุนรวมพบว่า ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าพอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ลงทุนระยะยาวในกองทุนรวมเพื่อเป็นรายได้ยามเกษียณ ทั้งนี้ กองทุนหุ้นที่มีค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมสูงอาจไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงตาม อย่างไรก็ดี ยังมีกองทุนหุ้นที่มีผลการดำเนินงานดีและค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมต่ำให้นักลงทุนเลือก ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในกองทุนรวม เช่น ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมและความสม่ำเสมอของผลการดำเนินงาน อนึ่ง กองทุนหุ้นที่มีค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมต่ำและมีนโยบายการลงทุนตามสูตรการคัดเลือกหุ้นและการกระจายน้ำหนักหุ้นที่กำหนดไว้ (rule based) เช่นกองทุนประเภท Strategic Betas กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในตลาดกองทุนรวมหลายประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ