กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--กองประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง
คณะกรรมการบริหารจัดการสารสนเทศและการสื่อสาร สกย.โดย นางชลิตา ศรีนวล และคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง และควบคุมภายใน สกย. โดยนายปรเมศร์ อัศวเรืองภิภพ ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการให้บริการผ่านเคาน์เตอร์ (Service Counter) เพื่อเตรียมรองรับการปิดระบบการชำระเงินสงเคราะห์แบบเดิม โดยจะเปิดให้บริการผ่านระบบ NSW เพียงช่องทางเดียว ณ บริษัทไทยสมเด็จเซอร์วิส จำกัด กรมศุลกากร
ดร.กฤชนนท์ ห่อทองคำ กรรมการสงเคราะห์การทำสวนยาง (ก.ส.ย.) และประธานกรรมการบริหารจัดการสารสนเทศและการสื่อสาร สกย. กล่าวว่า สกย. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้ความรู้และความเข้าใจ กับผู้ประกอบการส่งออกยางเกี่ยวกับระบบการจ่ายเงินแบบใหม่ โดยมีการจัดโรดโชว์เพื่อพบปะผู้ประกอบการส่งออกยาง รวมถึงจัดสัมมนา ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ส่งออกยางพาราจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งกลุ่มนี้โดยส่วนมากจะดำเนินการพัฒนาระบบใช้เอง โดยไปติดต่อ Software House เพื่อพัฒนาระบบชำระเงินสงเคราะห์ผ่านระบบ NSW และมีผู้ประกอบการในหลายๆ ที่ก็ปรับปรุงตัวเองเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อยทาง สกย. ก็มีโครงการที่ประสานงานกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสต่างๆ 4 แห่ง เพื่อให้เคาน์เตอร์เซอร์วิสนี้เปิดการบริการแก่ผู้ประกอบการรายย่อยในการส่งออก ซึ่งการติดต่อกับเคาน์เตอร์เซอร์วิสไม่จำเป็นต้องไปติดต่อที่ทำการด้วยตนเอง สามารถโทรศัพท์หรือทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งการให้บริการทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสมีค่าบริการถูกมาก และยังมีการแข่งขันกันในแต่ละเคาน์เตอร์เซอร์วิสเองอีกด้วย รวมถึงหากผู้ประกอบการต่างๆ ไม่สะดวกไปติดต่อเคาน์เตอร์เซอร์วิสก็สามารถติดต่อShipping ที่ผู้ประกอบการใช้บริการอยู่ให้ดำเนินการแทนได้
นายวิสาร ฉันท์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสมเด็จ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า ช่องทางการบริการชำระเงินสงเคราะห์ทางอิเล็กทรอนิกส์ นับว่าเป็นการให้บริการที่ดีและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงการใช้ระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งที่ผ่านมา ระบบเอกสารเป็นระบบที่มีต้นทุนของโลจิสติกส์แอบแฝงอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาชำระเงิน ค่าใช้จ่ายในการรอ แต่ระบบอิเล็กทรอนิกส์สามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนต่ำกว่า และมีความคล่องตัวสูงกว่าในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ระบบนี้เป็นระบบใหม่สำหรับผู้ประกอบการยาง ดังนั้น จะต้องมีการพัฒนาสักระยะหนึ่ง แต่สำหรับทางบริษัทฯ พร้อมให้บริการ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งระบบและการให้บริการ โดยจะขยายสาขาการให้บริการไปหาดใหญ่ จ.สงขลา และในพื้นที่ด่านต่างจังหวัดที่ผู้ประกอบการมีจำนวนมากก็สามารถที่จะเปิดสาขาได้ ควบคู่กับระบบกรมศุลกากร เพื่อให้ข้อมูลเชื่อมโยงกัน จะเป็นประโยชน์ในการรองรับการทำงานให้ทั้ง สกย. และผู้ประกอบการ