บลจ.กสิกรไทยเสนอทางเลือกลงทุน เสิร์ฟกองทุนไฮยิลด์บอนด์อายุ 6 เดือน ชูโอกาสล็อคผลตอบแทน 2.00% ต่อปี เสนอขาย 30 มิ.ย.- 6 ก.ค.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 29, 2015 13:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--บลจ.กสิกรไทย นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับต่ำถึงปานกลาง บริษัทจึงได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทน รวมถึงลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีกองทุนครบกำหนดอายุและยังต้องการลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2558 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีแอล (KEFF6MBL) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.00% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า "ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับประมาณการการเติบโตของ GDP ปี 2558 ลงมาอยู่ที่ 3.0% จากเดิมซึ่งประเมินอยู่ที่ 3.8% โดยมองว่าปัจจัยการขับเคลื่อนหลักจะมาจากการลงทุนภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ขณะที่การส่งออกยังคงชะลอตัว เช่นเดียวกับภาคการบริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ในมุมมองของบลจ.กสิกรไทยคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำที่ 1.50% ต่อปี ไปอีกสักระยะหนึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้มีการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ด้านสถานการณ์ของปัญหาหนี้กรีซ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ของกรีซเป็นกองทุนหรือองค์กรระหว่างประเทศ เช่น IMF, ECB และ EFSF เป็นต้น และมีเจ้าหนี้เอกชนในสัดส่วนที่น้อย ซึ่งหากกรีซเกิดการผิดนัดชำระหนี้จริงก็ไม่น่าส่งผลกระทบลุกลามไปถึงเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน อย่างไรก็ตาม บลจ.กสิกรไทยแนะนำให้ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดอายุเวลาอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อล็อกผลตอบแทนและรอดูจังหวะการลงทุนในภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนนี้" ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย นายชัชชัยกล่าวถึงรายละเอียดของกองทุนต่อไปว่า สำหรับตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีแอล (KEFF6MBL) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Agricultural Bank of China, ตราสารหนี้ Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ T.C. Ziraat Bankasi A.S., ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. ประเทศบราซิล โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEFF6MBL สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ