มท.1 กำชับ ปภ. ประสาน 12 จังหวัดภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 8 – 13 ก.ค.58

ข่าวทั่วไป Tuesday July 14, 2015 12:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) สั่งการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 12 จังหวัดภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากฝนตกหนัก รวมถึงคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 8 – 13 กรกฎาคม 2558 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย จัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง กรณีสถานการณ์รุนแรง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการอพยพและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 8 – 13 กรกฎาคม 2558 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ส่วนคลื่นลม ในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 - 4 เมตร จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด 12 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 17 จันทบุรี และเขต 18 ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย กรณีสถานการณ์รุนแรงได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ ในพื้นที่เสี่ยงภัยของ 12 จังหวัดภาคตะวันออก และภาคใต้ ให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำ ลำคลอง ลำธารเปลี่ยนสีเป็นสีขุ่นข้นหรือสีเดียวกับสีดินภูเขา ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ป่าต้นน้ำมากกว่า 100 มม. ต่อวัน เป็นต้น จะได้อพยพหนีภัยได้ทันท่วงที ส่วนชาวเรือให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็ก ควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ