ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ โชว์รายได้รวมไตรมาส 2/2558 พุ่งทะยานตามปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นกว่า 63% พร้อมเดินหน้าแผนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รองรับนโยบายภาครัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 11, 2015 11:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) โชว์รายได้รวมในไตรมาส 2 ขยายตัวตามปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ ผลจากการผลิตไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าแบบ Solar Farm ได้เต็มกำลังการผลิต และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ (Commercial Rooftop) ผลิตไฟได้เพิ่มขึ้น ด้านผู้บริหารมั่นใจครึ่งปีหลังสุดแกร่ง หลัง CODโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ได้ครบ 14 โครงการ พร้อมเดินหน้าแผนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ลุ้นภาครัฐไฟเขียวโครงการโซล่าร์ฟาร์ม คาดปีนี้รายได้เติบโต 30% ตามเป้า นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSEผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ภาครัฐ เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2558 ส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของ TSE ที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าตามงบบริหาร (รวมสัดส่วนรายได้ของ Solar Farm) 524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าประเภท Solar Farm เต็มกำลังการผลิตตลอดไตรมาส เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่เริ่มทยอยขายไฟฟ้า ประกอบกับบริษัทสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์หรือ COD สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ (Commercial Rooftop) ได้อีก 9 โครงการ รวม 9 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ หากพิจารณาจากงบการเงิน บริษัทฯ มีรายได้จากการขายไฟฟ้าในไตรมาส 2/2558 จำนวน 24.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2558 ที่มีรายได้จากการขายไฟฟ้าจำนวน 15.34 ล้านบาท ประกอบกับมีแรงหนุนส่วนแบ่งกำไรจาก Solar Farm อีก 157.61 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ที่เติบโตดีนั้น มาจากความสามารถในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Solar Farm ที่มีกำลังการผลิตรวม 80 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยวันละ 440,000 – 450,000 kWhr หรือเพิ่มขึ้น 6-7% เมื่อเทียบกับการผลิตไฟฟ้าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2558 ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ ซึ่ง ณ ไตรมาส 2 สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ หรือ COD ได้ 9 โครงการ รวม 9 เมกะวัตต์ จากจำนวนโครงการทั้งหมด 14 โครงการ ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้รวมเฉลี่ยวันละเกือบ 40,000 kWhr เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสแรกที่ผลิตได้รวมเฉลี่ยวันละ 30,000kWhr “ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2558 ถือว่ามีอัตราการขยายตัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในแง่ของปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 63% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2557 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี” นายธีร์ กล่าว ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TSE กล่าวว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่ายังมีอัตราขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยมาจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่บนห้างโฮมโปรและเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ทยอย COD เพิ่มเติมจากช่วงไตรมาส 2 อีก 3 โครงการและเหลืออีกเพียง 2 โครงการที่จะสามารถ COD ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยโครงการCommercial Rooftop มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 14 เมกะวัตต์ ทำให้เป็นแรงหนุนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อผลการดำเนินงานรวมในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ 30% ตามเป้าที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในประเทศ โดยให้ความสนใจโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบโซล่าร์ฟาร์ม กับสหกรณ์การเกษตรและหน่วยงานราชการ ซึ่งหากภาครัฐประกาศผลักดันโครงการก็สามารถดำเนินการได้ทันที ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TSE กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโครงการโซล่าร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งโครงการที่บริษัทฯ ลงทุนเองและร่วมกับพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่น 2 ราย มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 24.86 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการนำร่องที่จังหวัดอิบารากิ ขนาด 0.5 เมกะวัตต์ ได้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้เช่นกัน ส่วนปี 2559 จะทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้อีก 6 โครงการ รวม 11.01 เมกะวัตต์ ขณะที่โครงการในเมืองอาโอโมริ ขนาด 13 เมกะวัตต์ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2 ของปี 2560 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ