กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--IR network
บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) โชว์ผลงาน ครึ่งปีแรกของปี 58 กำไรสุทธิ 169.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.3 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 130.73 ล้านบาท "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์"มั่นใจแนวโน้มรายได้ปีนี้ เติบโตกว่าปีก่อน อานิสงส์รัฐ-เอกชน เดินหน้าลงทุนระบบสายส่ง-สถานีไฟฟ้า เผยยังมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 5.7 พันล้านบาท จ่อเข้าประมูลงานใหม่อีก 1.1 หมื่นล้านบาท ผู้ถือหุ้นมีเฮ! บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.125 บาท/หุ้น
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 มีรายได้รวม 2,182.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 421.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.9 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,761.43 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 นี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 169.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.3 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 130.73 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากงานรัฐเหมาก่อสร้างของภาครัฐ และภาคเอกชนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายตลาดงานเสาโครงเหล็กจากโทรคมนาคมสู่งานสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์
ในส่วนของผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 มีรายได้รวม 1,125.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.39ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 950.94 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2/2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 91.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.8 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 58.62 ล้านบาท
"รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกนี้มาจากการทำงานตาม Backlog ที่ยกมาจากปีก่อน โดยเฉพาะ งานสถานีไฟฟ้าภาครัฐ งานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ที่ จ.ลำปาง งานโรงไฟฟ้าพลังงานลมเขาค้อและวะตะแบก รวมถึงงานขายเสาโทรคมนาคมและเสาสายส่งแรงสูงให้ผู้รับเหมาติดตั้งเสาโครงเหล็กต่างๆ
สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี บริษัทจะเร่งทำงานตาม Backlog ที่เหลืออีกประมาณ 5,700ล้านบาทให้แล้วเสร็จให้เร็วที่สุด วัตถุประสงค์นอกจากเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าประมูลงานด้านสายส่งและสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และภาคเอกชนอีกอย่างน้อย 5-6 โครงการที่มูลค่างานรวมประมาณ 7,000 – 8,000 ล้านบาทแล้ว บริษัทยังรอโอกาสที่จะเข้าทำงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจาก ผู้พัฒนาโครงการอีก 2 – 3 ราย มูลค่ารวมไม่น่าจะน้อยกว่า 2,500 ล้านบาท
สรุปขณะนี้บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog ) ประมาณ 5,700 ล้านบาท แยกเป็นงานด้านวิศวกรรมไฟฟ้ 3,400 ล้านบาท งานด้านพลังงานทดแทน 2,300 ล้านบาท เตรียมเข้าประมูลงานใหม่ในช่วงที่เหลือของปีอีก 11,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับงานวิศวกรรมไฟฟ้าเพิ่มประมาณ 2,000 ล้านบาทรับงานด้านพลังงานทดแทนเพิ่มประมาณ 2,500 ล้านบาท เมื่อรวมกับ Backlog ที่มีอยู่จะเป็นงานที่จะต้องดำเนินการทั้งสิ้น 10,200 ล้านบาท "นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ในส่วนของการลงทุนในประเทศ การถือหุ้น 15 % ในโครงการพลังงานลมห้วยบง 2, 3 กำลังการผลิต 180 เมกกะวัตต์ ถือหุ้น 49-100 % ในโครงการโซลล่าร์ฟาร์มและโซล่ารูฟท้อป กำลังการผลิต 3 เมกกะวัตต์ทำให้บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ประมาณ 90 ล้านบาท และเมื่อรวมทั้งปีคาดว่าจะมีส่วนแบ่งกำไรในปี 2558 ทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 195 ล้านบาท สำหรับการลงทุน 14 % ในโครงการพลังงานลม เขาค้อ และ การถือหุ้น 4 % ใน บริษัท วินด์เอ็นเนอร์ยี่ส์โฮลดิ้ง จำกัด จะสร้างผลตอบแทนให้บริษัทในปี 2559 โดยบริษัทจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากโครงการเขาค้อเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 40-50 ล้านบาท ส่วนธุรกิจของ บริษัท วินด์เอ็นเนอร์ยี่ส์โฮลดิ้ง จำกัด จะมีการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2559 ตามแผนซึ่งจะส่งผลให้หุ้นที่บริษัมถืออยู่ 4 % มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญ
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศบริษัท เด็มโก้ เดอร์ ลาว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ DEMCO ได้ลงนามสัญญาสัมปทานการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้แก่รัฐวิสาหกิจน้ำประปาแขวงหลวงพระบาง เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนดระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี บริษัทได้เริ่มงานออกแบบโครงการ งานปรับปรุงพื้นที่ก่อสร้างระบบผลิตและจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ในเดือน ก.ค.58 และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายน้ำประปาในไตรมาส 1/59 โดยมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการในระยะเวลา 30 ปี เป็นเงินประมาณ 900 ล้านบาท
ในด้านเงินปันผลคณะกรรมการบริษัทได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2558 อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีแรกในอัตรา 0.125 บาท/หุ้นโดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนวันที่ 28 สิงหาคม 2558 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 10 กันยายน 2558