บลจ.ไอเอ็นจี เปิดตัวกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หอพักนักศึกษา ใจกลางเมืองมหาสารคาม ศูนย์กลางการศึกษาแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข่าวทั่วไป Thursday October 20, 2005 16:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--มาสเตอร์ไมนด์
บลจ.ไอเอ็นจี เปิดตัวกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หอพักนักศึกษา
ใจกลางเมืองมหาสารคาม ศูนย์กลางการศึกษาแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ขาย 7-21 พ.ย.นี้ รับประกันผลตอบแทนปีแรก 10%
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ใหม่ล่าสุด ในชื่อว่า “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หอพักนักศึกษา” มูลค่า 1,175 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายหน่วยลงทุนให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อนำไปลงทุนในหอพักนักศึกษาที่ใหญ่ที่สุดและมาตรฐานดีที่สุดในจังหวัดมหาสารคาม โดยเริ่มเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 7-21 พฤศจิกายน 2548 ในราคาหน่วยละ 10 บาท มูลค่าการซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 1,000 บาท
เหตุผลที่ทางบลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เลือกที่จะลงทุนในหอพักนักศึกษา ในจังหวัดมหาสารคาม เพราะจังหวัดมหาสารคามได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาระดับอุดมศึกษาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง โดยมีมหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคามเป็นตัวจักรสำคัญ อีกทั้งเนื่องจากการศึกษาเป็นความต้องการพื้นฐานของสังคม ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งที่จะสามารถตอบสนองนโยบายรัฐบาลและจังหวัดในการสร้างสังคมแห่งการศึกษา พร้อมร่วมจัดระเบียบหอพัก (zoning) เพื่อสร้างสังคมที่ดีให้กับชุมชน
สำหรับหอพักนักศึกษาดังกล่าวนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 52 ไร่ มีทั้งหมด 44 อาคาร อาคารละ 75 ห้อง ขนาดห้องละ 22 ตารางเมตร และสามารถรับนักศึกษาได้สูงสุด 9,372 คน (พักอาศัยห้องละ 3 คน) อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพคืออยู่ระหว่างมหาวิทยาลัยสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และสถาบันการพละศึกษา มหาสารคาม ซึ่งมีจำนวนนักศึกษารวมกันประมาณ 40,000 คน แต่ปริมาณหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมีจำนวนไม่เพียงพอกับปริมาณของนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นทุกๆปี ทำให้มหาวิทยาลัยต้องจัดทำโครงการหอพักนักศึกษาเครือข่ายโดยให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่ก็ยังมีหอพักเอกชนที่ได้มาตรฐานจำนวนไม่มากนัก บลจ. ไอเอ็นจี จึงเห็นโอกาสของการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สม่ำเสมอและระยะยาวให้กับนักลงทุน
“โครงการนี้ตรงกับความต้องการและความจำเป็นของมหาวิทยาลัย จึงไม่ห่วงเรื่องจำนวนผู้เช่า และการเรียกเก็บค่าเช่าก็เป็นการเรียกเก็บแบบรายเทอม จึงทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว โดยคาดว่าผลตอบแทนสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายจะสูงถึง 10% ต่อปี โดยจะมีการรับประกันผลตอบแทนในปีแรกด้วย” นายมาริษกล่าว--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ