ก.ล.ต.นับหนึ่งแบบไฟลิ่ง บมจ. ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ หรือ RP เฟอร์รี่รายใหญ่สุดของไทย พร้อมเสนอขายหุ้น IPO 38 ล้านหุ้น เดินหน้าโรดโชว์กรุงเทพและสุราษฎร์ธานี คาดเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ MAI พ.ย.นี้ มั่นใจกระแสตอบรับดีเพราะผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 14, 2015 13:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--hukder company นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP ผู้ดำเนินธุรกิจบริการขนส่งทางเรือเฟอร์รี่รายใหญ่ที่สุดของไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ (ก.ล.ต.) ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2558 และเริ่มนับหนึ่งแบบไฟลิ่งตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 38 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยจัดโรดโชว์ที่กรุงเทพและสุราษฎร์ธานี เพื่อนำเสนอรายละเอียดการขายหลักทรัพย์แก่นักลงทุน การระดมทุนครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ รองรับการขยายตัวของการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มสดใสมากขึ้น การคมนาคมที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยและตรงเวลา จึงจำเป็นในการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคและนักท่องเที่ยวจากสุราษฎร์ธานีไปยังเกาะสมุยและเกาะพะงัน "35 ปีที่ผ่านมา RP เติบโตพร้อมๆกับสุราษฎร์ สิ่งที่เป็นปณิธานในใจผมมาโดยตลอดคือ เราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่นี่ เราอยากจะมีส่วนนำความเจริญมาให้กับท้องถิ่นและร่วมพัฒนาไปพร้อมๆกัน นโยบายของบริษัทคือ เราจะเป็นองค์กรที่ทำงานอย่างมีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ (Clean Organization) ในเวลาเดียวกัน เน้นให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในพื้นที่เพื่อทำให้สมุยและพะงันซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก เป็นเกาะที่มีความสวยงาม มีสิ่งแวดล้อมที่ดีและพัฒนายั่งยืน (Clean Islands) ตลอดไป ขณะนี้ราชาเฟอร์รี่ฯ ถือว่าเป็นบริษัทที่มีกองเรือเฟอร์รี่มากที่สุดในธุรกิจขนส่งทางทะเลภาคใต้อยู่แล้ว คือ 12 ลำ เมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ผมมั่นใจว่าจะยิ่งทำให้บริษัทฯ แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เราจะนำเงินไปซื้อเรือเฟอร์รี่ลำใหม่เพิ่มอีก 1 ลำ เงินอีกส่วนหนึ่งชำระหนี้เงินกู้ระยะยาว และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ เป้าหมายสูงสุดคือเพื่อบริการลูกค้าให้ได้รับความสะดวก สบาย รวดเร็วและปลอดภัยที่สุดในการเดินทางข้ามจากเกาะสู่ฝั่ง" นางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ผลประกอบการที่ผ่านมาของ บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด มีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2557 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 665 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงาน 85 ล้านบาท และแค่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2558 นี้ ก็มีรายได้มากถึง 312 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงาน 47 ล้านบาท ดังนั้นเชื่อว่า การระดมทุนครั้งนี้จะยิ่งเสริมทัพความแข็งแกร่งของกิจการได้มากขึ้น จึงเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในอนาคตครั้งนี้ ด้านนายชยันต์ อัคราทิตย์ กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย เวลท์ จำกัด แกนนำในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ กล่าวว่า ด้วยความโดดเด่นของธุรกิจของ RP ที่ให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่ทั้งในเชิงการท่องเที่ยว และเชิงพาณิชย์ และเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเกาะสมุยและเกาะพะงันซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ประกอบกับผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจมากว่า 20 ปี อีกทั้งยังมีแผนการพัฒนาธุรกิจภายหลังการระดมเงินทุนในครั้งนี้ที่จะสนับสนุนให้บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตได้ในอนาคต จึงมีความเชื่อมั่นว่าหุ้น RP จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วไป บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ หรือ RP โดดเด่นและเชี่ยวชาญในกิจการขนส่งทางทะเลทั้งด้านการท่องเที่ยวและเชิงพาณิชย์ มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในวงการนี้มานานถึง 34 ปี มีความพร้อมทั้งด้านจำนวนเรือที่มีมากที่สุดถึง 12 ลำ ให้บริการได้ครอบคลุมทั่วถึงตั้งแต่เช้าจรดค่ำวันละไม่ต่ำกว่า 40 เที่ยว มีท่าเรือที่กว้างขวาง สะดวกสบาย การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้จึงเป็นจังหวะก้าวสำคัญที่จะหนุนให้ RP ผงาดขึ้นเป็นผู้นำในกิจการขนส่งและเดินเรือทางทะเลเพื่อขยายไปสู่การนำในระดับภูมิภาคในอนาคต โดยเฉพาะหลังเปิดประชาคมอาเซียนปลายปีนี้ คาดว่าจำนวนนักเดินทางและท่องเที่ยวไปเกาะสมุยและเกาะพะงันในปี 2558 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านคน และเกือบ 1 ล้านคน ตามลำดับ ดังนั้นเชื่อมั่นว่า RP จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปอย่างแน่นอน บมจ.ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ มีทุนจดทะเบียน 170 ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 132 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2558 มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 748 ล้านบาท ทั้งเรือ สินทรัพย์ประเภทท่าเทียบเรือทั้งดอนสัก-สมุย และดอนสัก-พะงันซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินของตนเอง โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 0.56 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ