กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 04 พฤศจิกายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,117.38-1,122.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 300 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,930 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 340 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,270 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.20 น.ของวันที่ 04/11/15)
แนวโน้มวันที่ 05 พฤศจิกายน 2558
กระทรวงการค้าอินเดียต้องการจะปรับลดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับทองคำและโลหะเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตเครื่องประดับในอินเดียให้สามารถหาซื้อทองคำและโลหะเงินได้ในราคาที่ต่ำลง เมื่อปริมาณการนำเข้าทองดิ่งลงอย่างรุนแรงในช่วงหลังจากรัฐบาลอินเดียปรับเพิ่มภาษีศุลกากรในการ นำเข้าทองขึ้นสู่ 10% ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังอินเดียกล่าวว่าไม่มีแนวโน้มที่ข้อเสนอนี้จะได้รับการอนุมัติ ความเห็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดความหวังว่าจะมีแรงซื้อทองคำในตลาดปัจจุบันจากอินเดียเข้ามาดันราคาทองคำให้ขยับขึ้น ขณะที่แรงกดดันต่อทิศทางราคาทองคำเพิ่มมากขึ้น เมื่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นาเรนดรา โมดีของอินเดียจะนำเสนอแผนการในการปรับลดการนำเข้าทองคำลงไปอีกในวันพฤหัสบดีนี้ โดยทางการอินเดียตั้งเป้าที่จะนำทองคำราว 20,000 ตันที่เก็บไว้ตามบ้านเรือนและวัดวาอารามมาปล่อยเข้าสู่ ระบบธนาคารผ่านทางโครงการแปลงทองคำให้เป็นเงิน รวมถึงการดำเนินโครงการพันธบัตรทองคำเพื่อปรับลดอุปสงค์ของนักลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำลง หลังจากการที่อินเดียนำเข้าทองคำเป็นจำนวนมากส่งผลให้ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของอินเดียพุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดที่ 1.90 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2013 ซึ่งความวิตกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และจะมีเงินทุนไหลออกจากตลาดทองคำ เห็นได้จากราคาทองคำร่วงลง 5 ทำการวันติดต่อกัน และการเคลื่อนไหวของยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ ประเมินว่าหากราคาทองคำขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,132 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และถ้าไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่งนักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำว่า เบื้องต้นสำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำซื้อบ้างส่วนเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,110 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้อย่างแข็งแกร่ง จึงเสี่ยงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว เนื่องจากหากราคาทองคำมีการปรับตัวลงทำให้มีโอกาสเห็นการดีดตัวในลักษณะ Rebound แต่หากราคาหลุดโซน 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไป ให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,125 หรือ 1,132 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,110 (18,610บาท) 1,100 (18,440บาท) 1,090 (18,270บาท)
แนวต้าน 1,125 (18,870บาท) 1,132 (18,980บาท) 1,147 (19,230บาท)
GOLD FUTURES (GFZ15)
แนวรับ 1,110 (18,800บาท) 1,100 (18,630บาท) 1,090 (18,460บาท)
แนวต้าน 1,125 (19,070บาท) 1,132 (19,170บาท) 1,147 (19,420บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148