สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 13, 2015 17:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,080.70-1,085.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,590 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,620 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.53 น.ของวันที่ 13/11/15) แนวโน้มวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายท่านสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยระบุว่าความเสี่ยงจากการรอนานเกินไปมีน้ำหนักเท่าๆกันกับความเสี่ยงจากการดำเนินการช้าเกินไปในการปรับอัตราดอกเบี้ยให้เป็นปกติ หลังจากเฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% มานานหลายปี เจ้าหน้าเฟดที่ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเพียงพอในการปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่าการแถลงสุนทรพจน์ในวันพฤหัสบดี นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดไม่ได้แสดงความเห็น เกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือกำหนดเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านที่แสดงการสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างชัดเจนกดดันราคาทองคำให้เกิดแรงขายจนสร้างระดับต่ำสุดครั้งใหม่ของปีและเคลื่อนตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดลงท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ประกอบกับ ราคาทองคำที่ร่วงลงเป็นโอกาสซื้อสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในตลาดทองคำ ทั้งนี้ สภาทองคำโลกเปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในไตรมาส 3 เมื่อราคาทองคำร่วงลงในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยอุปสงค์ทองคำรวมพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,121 ตันในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ แม้จะมีแรงซื้อพยุงตลาดทองคำไว้แต่การคาดการณ์มากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าหนุนทิศทางสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและมีโอกาสปรับตัวขึ้นค่าขึ้นต่อไปได้อีก นักลงทุนเลือกที่จะถือเงินสดเพื่อรอดูสถานการณ์ เห็นได้จากรายงานของ กองทุน SPDR Gold Trust ปรับลดการถือครองทองคำลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2008 และ สัดส่วนการถือครองทองคำของกองทุนทองคำชั้นนำ 8 แห่งอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 ทำให้เชื่อได้ว่าหากไม่มีปัจจัยหนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่ง การขยับขึ้นของราคาทองคำคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า ซึ่งการปรับตัวขึ้นได้มากเพียงใดหรือนานเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมของเศรษฐกิจ กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำมีลักษณะการดีดตัวของราคาทองคำในลักษณะ Technical Rebound หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง โดยประเมินโซนแนวต้านที่ 1,089-1,102 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับ 1,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ น่าจะเห็นการปรับตัวลงต่อโดนประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,060 หรือ 1,050 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าทองคำมีความผันผวนอย่างมาก และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากหลุดบริเวณดังกล่าวจำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,089 หรือ 1,102 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,075 (18,270บาท) 1,060 (18,010บาท) 1,050 (17,840บาท) แนวต้าน 1,089 (18,500บาท) 1,102 (18,730บาท) 1,118 (19,000บาท) GOLD FUTURES (GFZ15) แนวรับ 1,075 (18,450บาท) 1,060 (18,190บาท) 1,050 (18,020บาท) แนวต้าน 1,089 (18,690บาท) 1,102 (18,910บาท) 1,118 (19,180บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ