กรุงเทพ--28 มิ.ย.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยแจงการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 1.08 แสนล้านบาท และคืนทุนให้กับกองทุนฟื้นฟูฯเพราะ มีทุนประกอบการเกินความจำเป็นภายหลังการโอนหนี้ด้อยคุณภาพไปเอเอ็มซี ชี้การลดขาดทุนสะสมและการลดทุนของธนาคารไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ธนาคารมีขนาดที่เหมาะสม มีฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ธนาคารมีความพร้อมที่ดีขึ้น อีกทั้งมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนของธนาคารเพื่อเป็นการรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นบุริมสิทธิ (warrant) ในอนาคต
นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ตามที่ธนาคารจะทำการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 1.08 แสนล้านบาท ด้วยการลดหุ้นบุริมสิทธิหมวด ก (กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน) จำนวน 10,800 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท เป็นเงิน 1.08 แสนล้านบาท และจัดสรรคืนทุนแก่กองทุนฟื้นฟูฯ ในจำนวนที่เท่ากัน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการเสริมสร้างความมั่นคงของธนาคารตามมติ ครม. โดยกองทุนฟื้นฟูฯ ได้จัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิทเข้ามารับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพของธนาคารประมาณ 5.37 แสนล้านบาท และช่วยลดขาดทุนสะสมจำนวน 1.08 แสนล้านบาท
นายสิงห์กล่าวว่า การลดทุนจดทะเบียนและลดขาดทุนสะสมในครั้งนี้ ช่วยให้ฐานะของธนาคารแข็งแรงดีขึ้น และเป็นไปอย่างเหมาะสม ในขณะที่เงินกองทุนมิได้ลดลง แต่เนื่องจากธนาคารมีทุนในการประกอบการเกินความจำเป็น จึงได้ทำการลดทุนเพื่อคืนทุนให้กองทุนฟื้นฟูฯในจำนวนที่เท่ากัน เพื่อให้สิทธิกองทุนฟื้นฟูฯซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอนาคต โดยภายหลังการลดทุนแล้วธนาคารมีการกันสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญครบร้อยละ 100 ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งไม่ได้ทำให้มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นลดลง เพราะเป็นการลดทุนในส่วนที่เป็นหุ้นบุริมสิทธิ ไม่ใช่การลดในส่วนของหุ้นสามัญที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และกองทุนฟื้นฟูฯไม่ได้นำหุ้นในส่วนที่กองทุนฯถืออยู่ไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นการลดทุนในครั้งนี้จึงไม่มีผลกระทบต่อปริมาณ หุ้นในตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงเป็นธนาคารของรัฐเนื่องจากทางการโดยรวมยังคงถือหุ้นในธนาคารประมาณร้อยละ 91.77 โดยลูกค้าทุกรายยังคงสามารถดำเนินธุรกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ อีกทั้งรัฐบาลยังคงค้ำประกันเงินฝากของผู้ฝากเงินทุกราย ดังนั้น การลดทุนดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบใด ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อลูกค้าเงินฝากและสินเชื่อ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย กล่าวต่อไปว่า ธนาคารจะได้เพิ่มทุนจำนวนที่เท่ากันในคราวเดียวกันนี้ เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นบุริมสิทธิ (warrant) ของกองทุนฟื้นฟูฯในอนาคต--จบ--
-สส-