ธนาคารกรุงไทยร่วมแก้ไขปัญหาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ข่าวทั่วไป Friday August 31, 2001 11:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยพร้อมสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในโครงการนำร่องแก้ไขปัญหาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของรับบาล โดยภาครัฐ 4 หน่วยงานคือ การเคหะแห่งชาติ ธนาคารกรุงไทย บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท และธนาคารอาคารสงเคราะห์ จับมือกันออกโครงการแรกด้วยการนำคอนโอมิเนียม 6 แห่ง จำนวนกว่า 1 พันยูนิตในกรุงเทพออกขายแก่ผู้มีรายได้น้อย
นายศุภชัย พิศิษฐวานิช ประธานกรรมการธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานคณะทำงานร่วมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่าตามที่รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชน โดยมอบหมายให้การเคหะแห่งชาติและธนาคารของรัฐร่วมกันผลักดันโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น NPL หรือโครงการก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จ แต่จะมีศักยภาพต่อไปหากได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบมาพัฒนาและขายให้กับข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และมีรายได้ระดับปานกลางถึงน้อยในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด โดยให้ธนาคารของรัฐสนับสนุนด้านสินเชื่อและการเคหะแห่งชาติดำเนินการพัฒนาโครงการและทำการตลาด
นายศุภชัยกล่าวว่า สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวแบ่งเป็น 4 แนวทางคือ 1.การบริหารจัดการด้านการตลาด 2.การรับซื้อโครงการ 3.การจัดหาแหล่งเงินทุนและบริหารการเงิน 4.การจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ซึ่งแนวทางที่ 1 จะเป็นโครงการนำร่องโดยนำคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 5 แห่ง และใกล้จะแล้วเสร็จ 1 แห่ง ซึ่งเป็นลูกค้าธนาคารกรุงไทย 3 โครงการ และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท 3 โครงการ จำนวนรวม 1,264 ยูนิต มูลค่ารวม 2,088 ล้านบาท โดยให้การเคหะแห่งชาติเข้าไปพัฒนาเพื่อให้เข้าอยู่อาศัยได้และทำการตลาดนำออกขายแก่ผู้มีรายได้ปานกลางถึงน้อยในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง 4,400 คน
ประธานกรรมการธนาคารกรุงไทยชี้แจงต่อไปว่า ในส่วนของธนาคารกรุงไทยให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อทั้งที่เป็น Pre-finance แก่โครงการที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ และ Post finance แก่ลูกค้าทุกรายที่ต้องการซื้อ โดยจะปล่อยกู้ 90% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขายจริงของหลักประกัน ในอัตราดอกเบี้ย 4% ใน 3 ปีแรก หลังจากนั้นคิดอัตรา MLR-1% ซึ่งสามารถผ่านชำระได้ยาวนาน 30 ปี และอาจให้กู้วงเงินสินเชื่อเคหะพูนทรัพย์ เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตอีกไม่เกิน 10% ซึ่งทั้งสองวงเงินรวมกันไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขายจริง ซึ่งธนาคารพร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อให้ทันทีที่การเคหะแห่งชาตินำโครงการออกขาย
ส่วนแนวทางที่ 3 คือการจัดหาแหล่งเงินทุนและบริหารการเงิน ธนาคารได้สนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,080 ล้านบาท เพื่อซื้ออาคาร 6 อาคารจำนวน 2,352 ยูนิต เพื่อเป็นสวัสดิการแก้ข้าราชการตำรวจนครบาลผ่านการเคหะแห่งชาติ นายศุภชัยกล่าวในตอนท้าย
ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ โทร.(02)208-4174-7--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ