กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๒ ธ.ค. ๕๘) เวลา ๑๐.๓๐ น. ที่บริเวณโถง ชั้น ๑ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการแถลงข่าวโครงการ "ถวายแด่พ่อหลวงของปวงประชา ๘๘ พรรษา ธนานุเคราะห์ เพื่อประชาชน" เพื่อช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางการเงิน ทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนด้านการเงินเพิ่มขึ้น เป็นจำนวนมาก สำนักงานธนานุเคราะห์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีหน่วยงานสาขาที่ให้บริการ คือ "สถานธนานุเคราะห์" หรือโรงรับจำนำของรัฐบาล นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ ได้รับบริการที่ทันสมัย สะดวก และรวดเร็ว และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ๘๘ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ทรงบำเพ็ญคุณานุประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานธนานุเคราะห์ จึงได้กำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยรับจำนำเป็นกรณีพิเศษ ผ่านโครงการ "ถวายแด่พ่อหลวงของปวงประชา ๘๘ พรรษา ธนานุเคราะห์เพื่อประชาชน" เพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของสำนักงานธนานุเคราะห์ด้วยการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงินแก่ประชาชนด้วยการลดรายจ่ายในส่วน ของดอกเบี้ย และเพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชนได้ใช้ชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้อย่างมีความสุข
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า สถานธนานุเคราะห์ หรือโรงรับจำนำของรัฐ ให้บริการแก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการจำนำ จำนวนเงินต้นไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท ไม่คิดดอกเบี้ย ๑ เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ ๕ ถึงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๘ ซึ่งจะให้บริการพร้อมกันทั้ง ๓๕ สาขา คือ เขตกรุงเทพมหานคร จำนวน ๒๙ สาขา เขตปริมณฑล จำนวน ๔ สาขา (จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) และส่วนภูมิภาค จำนวน ๒ สาขา (จังหวัดระยอง) ทั้งนี้ สำนักงานธนานุเคราะห์ ยังได้กำหนดมาตรการยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ให้กับผู้เข้ามาใช้บริการจาก ๔ เดือน ๓๐ วัน เป็น ๔ เดือน ๖๐ วัน ตลอดเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ อีกด้วย
"การดำเนินงานของสำนักงานธนานุเคราะห์ ภายใต้โครงการฯ ดังกล่าว คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงินเฉพาะหน้าได้จำนวนไม่น้อยกว่า ๒๔,๐๐๐ ราย มีมูลค่าวงเงินรับจำนำไม่น้อยกว่า ๔๘๐ ล้านบาท สามารถช่วยเหลือประชาชนให้ประหยัดเงินค่าใช้จ่ายในเรื่องดอกเบี้ยได้เป็นเงินประมาณ ๔.๘๐ ล้านบาท อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงบริการรับจำนำของภาครัฐตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า ของประชาชน และผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงินเฉพาะหน้า"พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย