กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 18 มกราคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,087.80-1,092.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 18,890 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 90 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,800 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.42 น.ของวันที่ 18/01/16)
แนวโน้มวันที่ 19 มกราคม 2559
ภาวะผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการดิ่งลงอย่างต่อเนื่องของสินทรัพย์เสี่ยงกระตุ้นแรงซื้อทองคำ หลังจากดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2014 ซึ่งกดดัน ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงจนดัชนี S&P 500 ปิดตลาดที่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2015 ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 จนตลาดหุ้นสหรัฐปิดในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งนี้ การดิ่งลงของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโลกผันผวนมากขึ้น เมื่อราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2003 หรือต่ำสุดรอบ 12 ปีในช่วงต้นสัปดาห์นี้ หลังการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านถูกยกเลิก ซึ่งอิหร่านแสดงความพร้อมที่จะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบ 500,000 บาร์เรลต่อวันทันที.และยืนยันว่าที่จะปรับเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบขึ้นราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเวลา 1 ปี ซึ่งกระทบความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนอย่างชัดเจน ทั้งนี้ การดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบกดดันตลาดหุ้นหุ้นเอเชียดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2011 ในช่วงต้นสัปดาห์เช่นกันซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว สร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่รายงานของคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐรายงานว่านักลงทุนมีการเปลี่ยนมาถือสถานะซื้อสัญญาทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 มกราคม ยิ่งเป็นยืนยันความต้องการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดเงินตลาดทุนสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์นี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ส่งผลให้การซื้อขายในตลาดทองคำเบาบางลง ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน ในไตรมาส 4/2015 ร่วมทั้งรายงานผลประกอบการภาคเอกชนของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลประกอบการของธนาคารมอร์แกน สแตนเลย์, ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา, ธนาคารโกลด์แมน แซคส์, และสายการบินบางแห่ง เพื่อคาดการณ์การแกว่งตัวของสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการแกว่งตัวเพื่อสะสมกำลังอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,076-1,071 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,097-1,102 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,076 (18,460บาท) 1,071 (18,370บาท) 1,060 (18,180บาท)
แนวต้าน 1,097 (18,830บาท) 1,102 (18,910บาท) 1,119 (19,200บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,076 (18,640บาท) 1,071 (18,550บาท) 1,060 (18,360บาท)
แนวต้าน 1,097 (19,000บาท) 1,102 (19,090บาท) 1,119 (19,380บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148