กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 21 มกราคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,098.18-1,104.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 18,980 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,920 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.57 น.ของวันที่ 21/01/16)
แนวโน้มวันที่ 22 มกราคม 2559
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเดือนธันวาคมลดลง 0.1% หลังจากทรงตัวในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนธันวาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพฤศจิกายน โดยข้อมูลดังกล่าวต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่ลดลงเกินคาดตามต้นทุนพลังงานและราคาอาหารลดลงนั้นเป็นสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ซึ่งจะลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ซึ่งเฟดอาจจะไม่สามารถทำตามที่เคยประกาศในเดือนธันวาคมว่า เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25 % เป็นจำนวน 4 ครั้งในปี 2016 ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์ครั้งล่าสุดคาด ว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดอาจจะอยู่ที่ 1.00-1.25 % ในช่วงสิ้นปี 2016 โดยปรับขึ้นจาก 0.25-0.50 % ในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงซื้อเข้ามาตลาดทองคำอีกครั้ง ขณะที่กระแสคาดการณ์ดังกล่าวชัดเจนมากขึ้นเมื่อข้อมูลบ่งชี้ว่า ดัชนี MSCI ของหุ้นทั่วโลกดิ่งลงในอัตราที่รุนแรงกว่าในเดือนมกราคมปีนี้ โดยมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงินขนาดใหญ่ และการทรุดตัวของตลาดเกิดใหม่ กระตุ้นแรงซื้อทองคำให้เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวเป็นเพียงคาดการณ์ส่งผลให้มีแรงขาย ผู้นำธุรกิจและผู้กำหนดนโยบายการเงินจากทั่วโลกมาเข้าร่วมการประชุมที่เมืองดาวอส โดยผู้เข้าร่วมการประชุมหลายรายพูดคุยกันเรื่องการดิ่งลงของตลาดการเงินทั่วโลกนอกรอบการประชุม แต่หลายคนมองว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงวิกฤติการเงิน เบื้องต้นยังคงแนะนำให้เข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เพราะหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,109-1,112 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ แต่หากสามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะเผชิญแนวต้านสำคัญที่ 1,123 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,090-1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะค่อยๆขยับขึ้นในลักษณะ Sideway Up อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,109-1,112 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,090 (18,670บาท) 1,085 (18,580บาท) 1,071 (18,340บาท)
แนวต้าน 1,112 (19,050บาท) 1,123 (19,230บาท) 1,130 (19,350บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,090 (18,840บาท) 1,085 (18,750บาท) 1,071 (18,510บาท)
แนวต้าน 1,112 (19,210บาท) 1,123 (19,410บาท) 1,130 (19,530บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148