กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC ตั้งเป้ากวาดรายได้ปี 59 ที่ 1,800 ลบ.หรือ โตจากปี 58 20% พร้อมรุกธุรกิจเคมีภัณฑ์-พลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ด้านผู้บริหาร "กิตติ ชีวะเกตุ" เดินหน้าขยายการลงทุน ล่าสุดร่วมทุน QTC ตั้งบริษัท พีพีดับบลิวอี จำกัด ลุยลงทุนด้านพลังงาน
นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีเติบโตที่ระดับ 1,800 ล้านบาทหรือ เติบโตเพิ่ม 20% จากปีก่อนที่คาดว่าทำได้ 1,500 ล้านบาท โดยสามารถแบ่งสัดส่วนรายได้ที่จะเข้ามาจากธุรกิจเทรดดิ้ง 1,000ล้านบาท และ 800 ล้านบาท จากส่วนของการผลิต ซึ่งในส่วนนี้คือ ธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ (UAPC) 500 ล้านบาท ที่เหลือคือส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทน
ทั้งนี้ ในปี 2559 นี้จะเห็นการเติบโตของรายได้บริษัทฯ อย่างชัดเจนที่มาจากการเติบโตของโรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยมีขนาดกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ และใช้หญ้าเนเปียร์เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งทางบริษัทฯ ได้จำหน่ายไฟฟ้าให้กับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นหลัก
ส่วนโครงการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (Petroleum Production Project หรือ PPP )จังหวัดสุโขทัย ขณะนี้โรงงานเดินเครื่องเชิงพาณิชย์อย่างเต็มกำลัง โดยได้ทำการต่อท่อส่งแก๊สจาก ปตทสผ. จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเซ็นสัญญาไป โดยขณะนี้มีแก๊สเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นแก๊สเข้ามาเต็มที่ในช่วงไตรมาส 2/59 ขณะดียวกันบริษัทฯ ก็จะมีรายได้อีกส่วนมาจากธุรกิจโรงไฟฟ้า ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปซื้อกิจการ
"ปี 59 เราจะรับรู้ผลการดำเนินงานจากโครงการที่เราพัฒนาไปก่อนนี้ โดยเฉพาะในธุรกิจเคมีภัณฑ์และธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งปีนี้มั่นใจว่าภาพรวมเราจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 1,700-1,800 ล้านบาท หรือโต 20% โดยรายได้จะมาจากการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีทั้งธุรกิจเคมีภัณฑ์ โครงการ CBG"นายกิตติกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ในปี 2559 บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายการลงทุนและขยายธุรกิจเทรดดิ้ง พร้อมทั้งวางแผนที่จะเปิดแผนกใหม่เพิ่ม โดยจะนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ ส่วนการลงทุนอื่นๆ ก็ยังคงต้องรอเรื่องของนโยบายภาครัฐ ที่มีนโยบายออกมาในเรื่องของพลังงานทดแทน ซึ่งขณะนี้คงติดเรื่องของสภาวะราคาน้ำมันที่ยังต่ำอยู่
ส่วนงานต่างประเทศบริษัทฯ มีแผนที่จะนำสินค้าผลิตภัณฑ์ UAPC ที่ผลิตในประเทศ ไปจำหน่ายต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีดำเนินการไปบ้างแล้วกับพาทเนอร์ในการรุกขยายธุรกิจดังกล่าวไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศพม่า เป็นต้น อีกทั้งยังคงขยายธุรกิจดังกล่าวไปยังตลาดกัมพูชาและ เวียดนาม ต่อไป เนื่องจากเป็นส่วนที่ต้องพัฒนาให้เจริญเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งตามนโยบายของบริษัทฯ ขณะที่ UAPC ยังจะมีการวางแผนขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิตโดยที่สร้างอุปกรณ์ทันสมัยเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้อีกเท่าตัว
"ในส่วนการลงทุนต่างประเทศ ตามที่วางแผนไว้คงเป็นเรื่องของการจับมือกับพาทเนอร์ไปด้วยกันหรือขับเคลื่อนธุรกิจไปเอง ก็ต้องดูเรื่องของจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ตามที่ได้มีการแจ้งข่าวก่อนหน้านี้เรื่องจัดตั้งบริษัทฯร่วมทุนกับ QTC ในชื่อบริษัท พีพีดับบลิวอี จำกัด ในการไปลงทุนด้านพลังงานเป็นหลักทั้งในและต่างประเทศ"