กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--ซีเมนส์
เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559 ซีเมนส์ได้ส่งมอบโรงงานพลังงานความร้อนร่วม "ฟอร์จูน่า – Fortuna" แห่งโรงไฟฟ้าเลาส์วาร์ท (Lausward) ในเมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนีให้แก่ลูกค้าคือ บริษัท Stadtwerke Duesseldorf public utility ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า โดยเป็นการส่งมอบได้ก่อนกำหนด 19 วัน ที่สำคัญคือ โรงไฟฟ้านี้สามารถทำลายสถิติโลกได้ถึง 3 รายการซึ่งได้แก่ การบรรลุกำลังการผลิตสุทธิได้สูงถึง 603.8 เมกะวัตต์ โดยมีประสิทธิภาพสุทธิราวร้อยละ 61.5 ถือเป็นการทำลายสถิติโลกที่ซีเมนส์เองสร้างไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 กับโรงไฟฟ้าอัวร์ริกช์ ฮาร์ทมันน์ (Ulrich Hartmann) ที่มีประสิทธิภาพสุทธิร้อยละ 60.75 ในเมืองเอียสชิ่ง (Irsching) ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ยังสามารถผลิตพลังงานความร้อนได้อีกราว 300 เมกะวัตต์จ่ายไปยังเขตเมืองดุสเซลดอร์ฟซึ่งถือเป็นอีกขั้นของค่ายอดของรูปคลื่น (international peak value) ในระดับสากลของโรงไฟฟ้าที่ใช้เพียงกังหันก๊าซและกังหันไอน้ำอย่างละตัวเท่านั้น โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของก๊าซธรรมชาติในการเป็นเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 85 ในขณะที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 230 กรัม/กิโลวัตต์เท่านั้น เนื่องจากตัวโรงไฟฟ้านี้ใกล้กับตัวเมืองมากจึงต้องคำนึงเป็นพิเศษถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และด้านการควบคุมมลพิษทางเสียงให้น้อยที่สุดตลอดจนความสวยงามด้านทิวทัศน์เมืองในทุกขั้นตอนของการก่อสร้าง ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของโรงไฟฟ้าฟอร์จูน่าที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมนี้ก็คือ กังหันก๊าซรุ่น SGT5-800H ที่มีประสิทธิภาพสูงมากของซีเมนส์
ปัจจุบัน มีการสั่งซื้อกังหันก๊าซ H-class ของซีเมนส์จากทั่วโลกทั้งหมด 76 ตัว โดยกำลังทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่จำนวน 17 ตัว ซึ่งกลุ่มกังหันก๊าซรุ่น SGT-8000H บรรลุเวลาการปฏิบัติการได้มากกว่า 195,000 ชั่วโมง
โรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสุทธิสูงถึงร้อยละ 61.5 ส่งผลดีต่อสภาพภูมิอากาศอย่างไร
ตามหลักทฤษฎีของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดในสหภาพยุโรป โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอย่างโรงไฟฟ้าฟอร์จูน่าซึ่งมีประสิทธิภาพสุทธิสูงถึงร้อยละ 61.5 นั้นจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ราว 2.5 ล้านตันต่อปีซึ่งเทียบได้เท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของรถ 1.25 ล้านคันโดยแต่ละคันขับเคลื่อนเป็นระยะทาง 15, 000 กิโลเมตรต่อปี