ศูนย์จักษุ 24 ชั่วโมง รพ.เจ้าพระยารณรงค์ตรวจตาปีละครั้ง ป้องกันจอประสาทตาเสื่อมเร็วผิดปกติ

ข่าวทั่วไป Friday February 19, 2016 11:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--คอร์แอนด์พีค โรงพยาบาลเจ้าพระยาตอกย้ำความสำเร็จในการให้บริการศูนย์จักษุ 24 ชั่วโมงแห่งแรกของไทย เตือนคนไทยรณรงค์เรื่องปัญหาสุขภาพตาหมั่นตรวจเช็คสายตาปีละครั้ง ป้องกันปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควร เผย 5 ตัวการหลักสำคัญในการเร่งให้ประสาทตาเสื่อมเร็วก่อนกำหนด โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน มากเกินไป ถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับดวงตา อาจไม่ใช่แค่โรคตา แต่เป็นผลข้างเคียงที่เป็นสาเหตุของโรคอื่น ๆ ได้ นพ.ชัยสิทธิ์ คุปต์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยา เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการให้บริการศูนย์จักษุ 24 ชั่วโมงครบรอบ 10 ปี ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยา ได้ตระหนักถึงความจำเป็นให้บุคคลทั่วไปเข้ามาตรวจสายตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควร อันเกิดจากการใช้สายตาไปกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ไอแพด และสมาร์ทโฟนหรือจอแอลซีดี จนมีอาการเหล่านี้ เช่น ตาแห้ง, ตามัว,ปวดตา อย่านิ่งนอนใจเพราะอาจเป็นสัญญาณของจอประสาทตาเสื่อม โดยเฉพาะ 5 ตัวหลักในการเร่งให้จอประสาทตาของคุณเสื่อมก่อนเวลาอันควร ประกอบด้วย 1.การวางคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสม เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ ควรวางจอคอมพิวเตอร์ด้านข้างหน้าต่าง โดยมีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50 - 70 ซม. จัดระดับจดภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่กว่าระดับสายตาประมาณ 4 - 9 นิ้ว ที่สำคัญไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป 2.ไม่กล้ากำจัดแสงไฟที่รบกวน นอกจากวางคอมพิวเตอร์ถูกตำแหน่งแล้ว ควรปิดไฟบางดวงที่รบกวนการทำงาน เพราะความสว่างที่มากเกินไป มีผลต่อสายตา เพื่อป้องกันแสงที่เข้าตาโดยตรง ควรปิด หรือใช้มู่ลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านได้เพียงบางส่วน 3.เลือกใช้ขนาดตัวอักษรไม่เป็น ตามหลักการพิมพ์งานทุกครั้ง นอกจากเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอแล้วควรปรับความเข้มของตัวอักษรให้เหมาะสมโดยสังเกตได้จากยังสามารถอ่านตัวอักษรได้ใน ระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะที่นั่งทำงาน 4. สวมแว่นผิด สีเลนส์ที่ควรเลือกใช้ ควรเป็นสีเขียวอ่อน เพราะจะช่วยทำให้รู้สึกสบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้า ฟลูออเรสเซนต์ รวมถึงช่วยลดแสงสะท้อนจากจอภาพ โดยเลือกแว่นตาที่มีกำลังขยายสำหรับระยะ 50 - 70 ซม. ซึ่งค่ากำลังของเลนส์ จะแตกต่างจากเลนส์อ่านหนังสือหรือเลนส์มองใกล้ทั่วไป และ 5.ลืมกะพริบตาและไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ เมื่อมีสมาธิที่จดจ่อขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้อัตราการกะพริบตาลดลงจาก 20 - 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 - 8 ครั้งต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง หรือต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น การกะพริบตาถี่ ๆ หรือลุกยืดเส้นยืดสายช่วยได้ สำหรับบุคคลที่ทำได้ไม่ครบทั้ง 5 คำแนะนำ ก็ยังสามารถใช้วิธีบริหารกล้ามเนื้อตาง่าย ๆ ด้วยการกลอกตาขึ้น - ลงช้า ๆ 6 ครั้ง โดยให้เหลือบตาขึ้นสูงสุดและลงต่ำสุด ในระหว่างการบริหาร เมื่อทำครบแล้วให้กลอกตาไปข้างขวาและซ้ายสลับกัน โดยกลอกตาไปให้ขวาสุดและซ้ายสุด ทำซ้ำ 2 - 3 ครั้ง จากนั้นชูนิ้วขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา ห่างจากสายตาประมาณ 8 นิ้ว แล้วจ้องมองไปที่ระยะไกล ๆ ประมาณ 10 ฟุต สลับกับใช้ตามองระยะใกล้ที่นิ้วมือใช้เวลามองแต่ละที่ประมาณ 2 - 3 วินาที ทำสลับไปมาและท่าบริหารสุดท้าย คือ กลอกตาเป็นวงกลมช้า ๆ โดยเริ่มกลอกตาตามเข็มนาฬิกาก่อน แล้วกลอกตาทวนเข็มนาฬิกาสลับไปมา ที่สำคัญคือควรตรวจสุขภาพตาปีละ 1 ครั้ง เพื่อวัดความดันตา ตรวจเช็กจอประสาทตาและความผิดปกติของสายตา นพ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ศูนย์จักษุ 24 ชั่วโมง สามารถรองรับการรักษาด้านโรคตา มีเครื่องมือแพทย์ที่มีความทันสมัย ต่าง ๆ อาทิ เครื่องตรวจวัดความดันตาชนิดใช้ลมเป่า ใช้วัดความดันลูกตา เพื่อคัดกรองโรคต้อหินเบื้องต้น ,เครื่องตรวจวัดสายตาคอมพิวเตอร์, เครื่อง Slit lamp กล้องตรวจขยายภาพตา เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการตรวจตา ตั้งแต่ส่วนหน้าสุดของตา คือเปลือกตาไปถึงส่วนหลังสุด คือจอประสาทตา โดยกล้องจะทำหน้าที่ขยายภาพได้มากถึง 40 เท่า ทำให้มองเห็นส่วนต่าง ๆ ของตาได้ชัดเจน เพื่อดูแนวโน้มการเป็นต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม และโรคทางตาอื่น ๆ , เครื่องสแกนจอตาด้วยแสงเลเซอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้คลื่นแสงในการประเมินลักษณะของจอตา โครงสร้างของขั้วประสาทตาและเส้นใยประสาทตา เพื่อช่วยในการวินิจฉัยและติดตามการดำเนินไปของโรคจอตา โรคต้อหิน และโรคที่มีความผิดปกติอื่น ๆ ของเส้นประสาทตาและจุดรวมภาพ , เครื่องตรวจลานสายตา สำหรับหาจุดบอดของการมองเห็น เพื่อช่วยวินิจฉัยและติดตามผลของโรคต้อหินและโรคประสาทตาบางชนิด , เครื่องวัดเลนส์ ใช้ตรวจวัดค่าความยาวของลูกตาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และคำนวณค่ากำลังเลนส์แก้วตาเทียม สำหรับผู้ป่วยที่จะทำการผ่าตัดต้อกระจก , เครื่อง Yag Laser ประโยชน์ของเครื่อง คือ สามารถใช้ทำ Iridotomy (รูเปิดขนาดเล็กที่ม่านตา) เพื่อช่วยในการป้องกันและรักษาต้อหินแบบมุมปิด โดยการใช้เลเซอร์ยิงให้น้ำในลูกตาระบายได้ดีขึ้น นอกจากนี้เครื่องตัวนี้ยังใช้เปิดเยื่อหุ้มเลนส์ที่ขุ่นหลังผ่าต้อกระจก ทำให้เห็นดีขึ้น,เครื่อง Argon Laser ใช้รักษาโรคทางจอประสาทตา เช่น เบาหวานขึ้นจอประสาทตา จอประสาทฉีกขาด เส้นเลือดในจอประสาทตาอุดตัน จอประสาทตาเสื่อม, กล้องถ่ายภาพขอประสาทตา เพื่อดูเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ดูเส้นเลือดอุดตัน เส้นเลือดงอกใหม่ที่เปราะแตกง่ายในผู้ป่วยเบาหวาน และโรคอื่น ๆ ทางจอประสาทตา , เครื่องเลเซอร์ลดความดันลุกตา ช่วยในการลดความดันภายในลูกตา ที่เป็นสาเหตุของโรคต้อหินโดยเฉพาะที่เป็นต้อหินมุมเปิด ซึ่งเป็นวิธีการรักษาอีกวิธีหนึ่ง ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหมือนกรณีการใช้ยารักษาโรคต้อหิน , เครื่อง Topography เครื่องถ่ายภาพเพื่อดูพื้นผิวของกระจกตา ความโค้งของกระจกตา และเครื่อง Pachymeter เครื่องวัดความหนาของกระจกตา ด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง…. เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ และ เป็นอวัยวะที่สำคัญมากส่วนหนึ่งของร่างกาย เพราะทำหน้าที่ในการมองเห็นต่อโลกภายนอก การบำรุงสุขภาพตา เป็นสิ่งที่คนทั่วไปมักมองข้าม ซึ่งอาจทำให้บางคนสูญเสียสายตาถาวร จากการที่ไม่ได้รับการรักษาในระยะแรก นำมาสู่ความทุกข์ ทั้งกายและใจ ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญในการรักษาดวงตา เพื่อให้การมองเห็นที่ดีคงอยู่กับเราตลอดไป เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับดวงตา อาจไม่ใช่เพียงแค่โรคตา แต่เป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ด้วย ผู้สนใจต้องการตรวจตา สามารถสอบถามรายละเอียดและปรึกษาแพทย์ศูนย์จักษุ 24 ชั่วโมง ได้ทุกวัน ทุกเวลา ไม่มี วันหยุด ได้ที่โทรศัพท์ 02-884- 7000

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ