สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 29 มีนาคม 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 29, 2016 17:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 29 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,215.98-1,222.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,500 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,460 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.38 น.ของวันที่ 29/03/16) แนวโน้มวันที่ 30 มีนาคม 2559 ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐ กดดันดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินกระตุ้นราคาทองคำให้ดีดตัวขึ้นได้บ้าง เมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดลง 0.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ ส่งผลให้ ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทียบรายปี ซึ่งยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ตัวเลขปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐที่อ่อนแอ ได้ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกชะลอตัวลง ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐสาขาแอตแลนตาคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวในอัตราต่ำกว่า 1% ในไตรมาสแรก โดยระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะขยายตัว 0.6% ในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งชะลอตัวจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1.4% ที่คาดไว้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่ามีโอกาสน้อยลงที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ทั้งนี้ ทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นเมื่อรายงานของสถาบันยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแห่งชาติของจีน (NAES) คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะยังซบเซาต่อไปในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 และจะขยายตัวประมาณ 6.7% เนื่องจากการผลิตและการลงทุนภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลง รวมถึงการบริโภคและการส่งออกที่ซบเซาได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำจากจีนที่เพิ่มขึ้นสะท้อนผ่าน ข้อมูลจากสำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรของฮ่องกงเปิดเผยว่า การนำเข้าทองคำสุทธิจากฮ่องกงเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.869 ตันในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นจาก 33.041 ตันในเดือนมกราคม โดยการนำเข้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55.08 ตัน จาก 37.375 ตัน ซึ่งการนำเข้าทองสุทธิของจีนจากฮ่องกงเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนในเดือนมกราคม โดยราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรระยะสั้น กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,208 (20,230บาท) 1,200 (20,100บาท) 1,194 (20,000บาท) แนวต้าน 1,230 (20,600บาท) 1,242 (20,810บาท) 1,255 (21,020บาท) GOLD FUTURES (GFJ16) แนวรับ 1,208 (20,370บาท) 1,200 (20,240บาท) 1,194 (20,140บาท) แนวต้าน 1,230 (20,740บาท) 1,242 (20,950บาท) 1,255 (21,160บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ