กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
"งาน "Startup Thailand 2016" จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Unite to Rise" หรือ"รวมพลังสตาร์ทอัพเพื่อก้าวต่อไปของเศรษฐกิจไทย" งาน "Startup Thailand 2016" จัดขึ้นเป็นวันที่ 3 โดยวันนี้มีไฮไลท์คือการแข่งขันรอบสุดท้ายของงาน "Startup Thailand 2016 Pitch Challenge" และประเด็นสำคัญอื่นๆ ภายในงานเสวนา
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า "ดังที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ในวันเปิดงาน Startup Thailand 2016 ว่านักรบเศรษฐกิจใหม่ หรือนักธุรกิจ Startup มีความสามารถและศักยภาพสูงในการเติบโต รัฐบาลสนับสนุนสิ่งแวดล้อมเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด สำหรับเวที Pitch Challenge นี้เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ Startup และนักลงทุนได้พบปะแลกเปลี่ยนกัน เป็นการสนับสนุนต่อยอดธุรกิจให้ Startup ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ในงาน "Startup Thailand 2016 Pitch Challenge" มี Startup สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน 125 ทีม และมีเพียง 16 ทีมที่ได้รับการคัดเลือกผ่านเข้ารอบสุดท้าย ซึ่งผมขอแสดงความยินดีกับทีม Startup ที่ได้รับรางวัลทุกท่าน"
สำหรับผลการแข่งขัน "Startup Thailand 2016 Pitch Challenge" ทีม "TakeMeTour" คว้ารางวัลชนะเลิศ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ตกเป็นของ "WashBox24" และรองชนะเลิศอันดับ 2 เป็นของ "Choco Card Enterprise" และรางวัลชมเชย 3 รางวัล คือ "Seekster", "Meditech Solution" และ "Glazziq" และรางวัลพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนโดย สวทช. ได้แก่ "InfinitiesSoft Solution"
นอกจากนั้น ในวันนี้ได้มีปาฐกถาพิเศษจาก คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการไลน์ประเทศไทย ในหัวข้อ Startup and Innovation: The Way of LINE "แอปพลิเคชั่นไลน์ เกิดขึ้นมาเพียง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2011 แต่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันธุรกิจของไลน์มีรายได้หลักมาจาก เกม สติ๊กเกอร์ และโฆษณา นอกจากนั้นเรากำลังสร้างบริการใหม่ๆ ที่จะสามารถสร้างรายได้ในอนาคตเช่นกัน
ในปีที่ผ่านมามีจำนวนประชากรที่ใช้บริการมือถือจำนวนกว่า 40 ล้านคน และมีผู้ใช้ไลน์ราว 33 ล้านคน นอกจากนั้น ปัจจุบัน E-Commerce ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปเป็นการทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ อาทิ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต (M-Commerce & Social Commerce) และผู้บริโภคมีการใช้บริการที่เป็นออนไลน์สู่ออฟไลน์มากขึ้น (Online to Offline) อย่างเช่น บริการเรียกรถแท็กซี่ จากแอป Grab Taxi เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของเหล่า Startup ที่มีไอเดีย และนำเทคโนโลยีมาใส่ และสร้างเป็นธุรกิจ สำหรับไลน์เอง เราก็กำลังมองหา Startup ที่มีธุรกิจหรือบริการใหม่ๆ หรือมีแอปพลิเคชั่นที่สามารถนำมาใช้ร่วมกับโปรแกรมของไลน์ ได้ เช่น ตอนนี้ไลน์ได้เปิดตัว LINE MAN ครอบคลุมบริการด้านการส่งของ (Messenger Services) สั่งอาหาร (Food Delivery) และซื้อของ (Convenience Goods) ซึ่งบริการด้านการสั่งอาหาร ไลน์ก็ได้ร่วมมือกับ Startup ที่ชื่อ Wongnai ทำให้ผู้ใช้บริการไลน์สามารถสั่งอาหารจากร้านอาหารทุกร้านที่มีชื่ออยู่ในแอพพลิเคชั่น Wongnai