ปภ.แนะผู้ขับขี่เรียนรู้หลักขับรถช่วงฝนตก . . . เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

ข่าวทั่วไป Thursday May 19, 2016 16:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่เรียนรู้หลักการขับรถในช่วงฝนตก โดยปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงของเม็ดฝน เปิดไฟหน้ารถ ไม่เปิดใช้สัญญาณไฟสูงและไฟกะพริบ รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่เบรกในระยะกระชั้นชิด ไม่เหยียบเบรกให้รถหยุดในทันที จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและให้ทุกการเดินทางในช่วงฤดูฝนเป็นไปด้วยความปลอดภัย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การขับรถในช่วงฝนตกมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำท่วมขังผิวการจราจร ประกอบกับผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยง และขาดทักษะในการขับรถ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะผู้ขับขี่เรียนรู้หลักการขับรถในช่วงฝนตก โดยปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝน ให้สัมพันธ์กับความแรงของเม็ดฝน หากกระจกมีคราบสกปรกให้เปิดน้ำฉีดกระจก จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น พร้อมเปิดไฟหน้ารถ เพื่อช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้นและผู้ขับรถคันอื่นสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล กรณีขับรถในช่วงกลางคืนที่มีฝนตกหนักหรือถนนมีน้ำเฉอะแฉะ ให้เปิดใช้ไฟตัดหมอก เพื่อลดการสะท้อนของแสงไฟหน้ารถกับน้ำบนพื้นผิวถนนที่ทำให้มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน ไม่เปิดใช้สัญญาณไฟสูง เพราะแสงไฟจะสะท้อนกับน้ำบนพื้นถนน ทำให้ผู้ที่ขับรถสวนทางมาตาพร่ามัว และไม่เปิดใช้ไฟกะพริบ เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ร่วมใช้เส้นทางและทำให้ไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวใช้ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ จับพวงมาลัยให้มั่น โดยเฉพาะช่วงฝนตกใหม่ๆ คราบดินบนพื้นถนนจะผสมกับน้ำฝน ทำให้รถลื่นไถลได้ง่าย ควรขับรถให้ ช้ากว่าปกติ โดยรักษาความเร็วให้อยู่ในระดับสม่ำเสมอ ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถหยุดรถได้ ในระยะที่ปลอดภัย เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ เนื่องจากสภาพถนนเปียกลื่น ทำให้ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถมากขึ้น ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ไม่แซงรถคันอื่นในระยะกระชั้นชิด และให้สัญญาณไฟก่อนเปลี่ยนช่องทางในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร โดยมองเส้นทางให้รอบด้าน หากรถอยู่ในระยะไกล จึงค่อยเปลี่ยนช่องทาง ตลอดจนหลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน โดยถอนคันเร่งและแตะเบรกเบาๆ เพื่อลดระดับความเร็ว ไม่เหยียบเบรกให้รถหยุดในทันทีเมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่มีแอ่งน้ำหรือน้ำ ท่วมขัง เพราะจะทำให้ล้อล็อกและรถเสียการทรงตัวพลิกคว่ำได้ กรณีเกิดละอองฝ้าบริเวณกระจก ควรปรับอุณหภูมิในและนอกรถให้ใกล้เคียงกัน โดยลดกระจกลงเล็กน้อย หากยังมีละอองฝ้าให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดกระจก กรณีฝนตกหนักมากจนมองไม่เห็นเส้นทาง ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย แล้วรอจนฝนหยุดตกหรือมองเห็นเส้นทางชัดเจน จึงค่อยขับรถไปต่อ ทั้งนี้ การเตรียมสภาพรถให้พร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงฝนตก การเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางที่มีฝนตกเป็นพิเศษ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและให้ทุกการเดินทางในช่วงฤดูฝนเป็นไปด้วยความปลอดภัย 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ