กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--กทม.
ที่สำนักพัฒนาชุมชน กทม. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางณฐนนท ทวีสิน รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้พบปะข้าราชการสำนักพัฒนาชุมชน และฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม จาก 50 สำนักงานเขต เพื่อมอบนโยบายของกรุงเทพมหานคร อวยพรปีใหม่และให้กำลังใจแก่ข้าราชการทุกคน โดยปลัดกทม. กล่าวว่า งานด้านการพัฒนาชุมชนเป็นภารกิจที่น่าเห็นใจ เนื่องจากต้องเผชิญกับผู้ที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในสังคม ดังนั้น ในการพิจารณาแนวทางบริหารงบประมาณประจำปี 2545 ของกทม. จึงจะมุ่งเน้นความสำคัญทางด้านสังคมมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาคน การพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง เนื่องจากในอนาคตประชาชนจะมีบทบาทในการบริหารประเทศ เมือง และท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น อันเป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้ประชาชนมีสิทธิมากขึ้น
ด้านรองปลัดกทม.กล่าวว่า ปัจจุบันงานด้านการพัฒนาชุมชนของกรุงเทพมหานครมีบทบาทและเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนอย่างกว้างขวาง ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความพยายามผลักดันของนักพัฒนาชุมชนทุกคน อย่างไรก็ดี ชุมชนต่าง ๆ ในกทม.ยังมีโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาและเติบโตไปได้อีกหลายด้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ทุกเขตต่างก็มีของดีที่สามารถอวดได้ การเข้าไปสนับสนุนและพัฒนาให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่จะทำให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของชุมชนด้วย ส่วนด้านการฝึกอาชีพนั้นโรงเรียนและศูนย์ฝึกอาชีพได้ผลิตช่างที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับมากมาย และแนวทางการผลิตบุคลากรต่อไปนั้นต้องคำนึงถึงสินค้าที่บุคลากรผลิตออกไปจะต้องเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและนอกประเทศด้วย
สำหรับการประชุมร่วมระหว่างผู้บริหารสำนักพัฒนาชุมชนและฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมจาก 50 สำนักงานเขต ซึ่งมีนางผ่องลักษณ์ วาสิกศิริ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชนเป็นประธานนั้นที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดเตรียมงบประมาณปี 2545 ซึ่งจะเน้นการพัฒนาชุมชนในเชิงรุกเป็นการพัฒนาออกไปตามสภาพพื้นที่ โดยดึงจุดเด่นของแต่ละพื้นที่มาส่งเสริมสนับสนุนให้มีความเข้มแข็ง มีแนวทางคือสร้างชุมชนให้มีความทันสมัย เหมาะกับสังคมปัจจุบัน แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทย และวิถีชีวิตแบบไทย ๆ ของชุมชนเอาไว้ ทั้งนี้จะดึงสภาวัฒนธรรมเข้าร่วมกันพัฒนาให้มากขึ้น ส่วนในด้านการฝึกอาชีพนั้น จะมีการยกระดับโรงเรียนฝึกอาชีพกทม.ให้เป็นวิทยาลัยอาชีวศึกษา และขยายจำนวนโรงเรียนฝึกอาชีพเป็น 10 แห่งเท่ากับศูนย์ฝึกอาชีพ 10 แห่ง นอกจากนี้ในด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนสำนักพัฒนาชุมชนมีโครงการขยายศูนย์เด็กเล็กอีก 52 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 212 แห่ง โดยให้สำนักงานเขตไปสำรวจสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อจัดสร้างต่อไป--จบ--
-สส-