กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
จากซอฟต์แวร์ DOM ที่ไม่เคยคิดมุ่งการทำกำไร สู่การเป็นซอฟต์แวร์ ที่เป็นเครื่องมือสำคัญของนักการตลาดยุคใหม่ โกยรายได้งามในนามบริษัท "InsightEra" สตาร์ตอัพเด็กไทยสายเลือด ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ในโลกที่คนหันมาใช้ Social media เป็นช่องทางการสื่อสารหลัก แน่นอนว่ารูปแบบการสื่อสารของคนเราย่อมเปลี่ยนแปลงไป การมองเห็นโอกาสที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งในมุมมองของ trend ในต่างประเทศและช่องว่างทางการตลาดในประเทศไทย DOM จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการปรับตัวของพฤติกรรมการบริโภค และวิถีการบอกเล่าข้อมูลข่าวสาร แชร์ feedback ระหว่างกัน
โดย DOM เป็น social network analytics ที่แสดงผลในรูปแบบ web application ซึ่ง DOM จะทำหน้าที่สำคัญในการไปเก็บความเห็นที่เกี่ยวข้องกับ keyword ที่ต้องการค้นหาที่มีการพูดถึงอยู่ใน social media ทั้ง Facebook Twitter หรือเว็บบอร์ดต่างๆ อาทิ pantip หรือ เว็บข่าวต่างๆ มาวิเคราะห์ และนำมาแสดงผลตามแต่ละประเด็นที่ลูกค้าสนใจ ประโยชน์ของ DOM ทำให้ใช้เวลาในการเก็บ feedback น้อยลง เมื่อเปรียบเทียบกับการทำ survey ตลาดในรูปแบบก่อนๆ ลดการบิดเบือนของข้อมูล เนื่องจากเป็นการเก็บการแสดงความเห็นโดยตรงแทนการเข้าไปสอบถาม รวมถึงทำให้ลูกค้าเข้าถึง feedback ได้ในวงกว้างขึ้น
แม้จะมีคู่แข่งในตลาดที่มี product ใกล้เคียงกัน แต่จุดแข็งของ DOM คือเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก มากกว่าแค่การ monitor เหมือนกับ product อื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดทั่วไป รวมทั้งได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาต่อยอดจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย และความร่วมมือกับ System Integrator ยักษ์ใหญ่ของไทย
จุดเริ่มต้นของบริษัท InsightEra เกิดจากเด็ก 3 คน ที่จบการศึกษาปริญญาตรีภาควิชาวิศวคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้แก่ นางสาวนารีรัตน์ แซ่เตียว หรือ "น้องหยก" นางสาวพัชรพร เจนวิริยะกุล หรือ "น้องพลอย" นายสิรภพ ณ ระนอง หรือ "ไม้เอก" ซึ่งได้พัฒนาผลงาน DOM ส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศจากหลายเวที จนกระทั่งเป็นที่สนใจของนักลงทุนซึ่งมองเห็นโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจ จึงมีการก่อตั้งบริษัท InsightEra ขึ้นเพื่อรองรับการเชื่อมต่อและนำมาสู่การให้บริการในตลาดจริง
"เราเริ่มจากเด็กที่จบวิศวกรรมศาสตร์ ไม่รู้เรื่องธุรกิจเลย รู้แต่ว่าเทคนิคทำยังไง จะสร้างซอฟต์แวร์ขึ้นมาหนึ่งตัวต้องทำอย่างไร แต่ด้วยความที่เราทำแล้วไปแข่งหลายๆ เวที ไปเปิดบูท ก็มีคนสนใจมากขึ้น จนได้รู้จักกับ บริษัท G-able ซึ่งมีความสนใจจะลงทุนในซอฟต์แวร์ตัวนี้ ก็เลยเกิดการเจราจาธุรกิจกันและเกิดเป็นบริษัท InsightEra ขึ้นมา โดยเราได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยช่วยเหลือเรื่องการเป็นคนกลางประสานงานดูแลเราในช่วงเริ่มต้นการทำงานกับพาร์ทเนอร์"
นางสาวนารีรัตน์ เปิดเผยว่า "การได้ร่วมงานกับมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจเป็นการเติมเต็มความรู้จากซอฟแวร์ต้นแบบที่แม้จะผ่านการชนะเลิศมาหลายเวที แต่เมื่อต้องไปถึงมือผู้ใช้งานจริงๆ ต้องมีการปรับเปลี่ยน แก้ไขหลายๆ อย่าง ซึ่ง G-Able เป็นที่ปรึกษาที่ดีและมีความเชี่ยวชาญเรื่องความต้องการของลูกค้า"
นางสาวพัชรพร กล่าวเพิ่มเติมว่า "ช่วงแรกที่เริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวนี้ไม่ได้มุ่งเป้าที่การทำการขายแต่อย่างใด เราและลูกค้ามีโจทย์จริงๆ จากผู้ใช้งานทำให้เรามีแนวคิดมุมมองที่เข้าใจผู้ใช้งานมากขึ้น รู้สึกสนุก เช่น หนึ่งในลูกค้าของเราในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารฟาสต์ฟู้ดรายหนึ่ง ต้องการทำการตลาดว่าลูกค้าพูดถึงสินค้าของเขาในแง่บวกหรือลบ เราสามารถดึงข้อมูลจาก facebook, twitter, pantip หรือเว็บไซต์ข่าวต่างๆ เข้ามาเพื่อประมวลผลดูว่าแต่ละข้อความที่มีคนพูดถึงสินค้าอยู่นั้น พูดในเชิงบวกหรือลบ นอกจากนี้ระบบยังสามารถจัดแยกย่อยลงไปอีกด้วยว่าข้อความที่เป็นในเชิงบวกหรือลบนั้นมาจากเรื่องอะไร เช่น เรื่องความสะอาด การบริการ บรรยากาศภายในร้าน หรือรสชาติ"
ปัจจุบัน InsightEra มีรูปแบบการให้บริการลูกค้าทั้งแบบรายเดือน และซื้อซอฟต์แวร์ไปติดตั้ง โดย InsightEra จะให้บริการอัพเกรดระบบ เพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆ ซึ่งลูกค้าหลักของผลิตภัณฑ์ก็มีหลากหลาย ทั้งภาคธุรกิจ (ธนาคาร ค้าปลีก ร้านอาหาร เป็นต้น) และหน่วยราชการต่างๆ ที่สนใจที่จะทำ digital marketing หรือสนใจประเด็นที่มีการพูดถึงอยู่ใน social media ทั้งนี้โดยรายได้หลักของบริษัทได้มาจากการเปิดให้มีการเช่าใช้ software DOM บน cloud และการให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น การทำรายงานสรุปข้อมูล
หรือการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก สำหรับผู้ที่สนใจร่วมธุรกิจ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ask-dom.com