สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 16 มิถุนายน 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 16, 2016 17:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 16 มิถุนายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,292.18-1,313.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 400 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM16 อยู่ที่ 21,910 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 400 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,510 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.58 น.ของวันที่ 16/06/16) แนวโน้มวันที่ 17 มิถุนายน 2559 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25-0.50% ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันที่เฟดตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมหลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2015 แม้ว่าผู้กำหนดนโยบายคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปี 2017 คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้ง โดยลดลงจากระดับ 4 ครั้ง ทั้งนี้เฟดส่งสัญญาณท่าทีระมัดระวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากความวิตกที่ยังมีอยู่เกี่ยวกับประเด็นที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ทำให้ โพลล์ได้ปรับลดโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 26-27 กรกฎาคม โดยคาดว่ามีโอกาสเพียง 20% ปรับลดลงจากโอกาส 34% ที่เคยคาดไว้ในผลสำรวจวันที่ 3 มิถุนายน ขณะที่ธนาคารชั้นนำส่วนใหญ่ในย่านวอลล์สตรีทของสหรัฐคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 1 ครั้งใน ปี 2016 คาดการณ์ดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมนโยบายการเงินและไม่ได้ขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปพร้อมทั้งยืนยันที่จะเพิ่มฐานเงินในอัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี และมีมติ 7 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1% โดยการตัดสินใจดังกล่าวช่วยหนุนเยนให้พุ่งขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์เทียบเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือนซึ่งกดดันให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินร่วงลง ซึ่งเพิ่มแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำ นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยในช่วงนี้ในขณะที่นักลงทุนกังวลกับ Brexit หรือความเป็นไปได้ที่ชาวอังกฤษจะโหวตเลือกให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ในการทำประชามติในวันที่ 23 มิถุนายน ทั้งนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจรัสเซีย,รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ ต่างออกมาประเมินกรณี Brexit เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ปัจจัยต่างๆดังกล่าวดันราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เหนือระดับสูงสุดของปี 2015 โดยราคาทองคำเคลื่อนไหวสวนทางกับสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นที่อ่อนตัวลง กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,323 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรเพียงบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,290-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนในระยะสั้นหากราคาการย่อตัวลงมาและสามารถตั้งฐานบริเวณแนวรับดังกล่าวได้แข็งแกร่งสามารถเข้าซื้อทองคำเพิ่มเติมบางส่วน ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,300 (21,660บาท) 1,290 (21,500บาท) 1,282 (21,360บาท) แนวต้าน 1,323 (22,050บาท) 1,330 (22,170บาท) 1,345 (22,420บาท) GOLD FUTURES (GFM16) แนวรับ 1,300 (21,670บาท) 1,290 (21,500บาท) 1,282 (21,360บาท) แนวต้าน 1,323 (22,050บาท) 1,330 (22,170บาท) 1,345 (22,420บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ