กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 04 กรกฎาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,338.73-1,357.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 22,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ16 อยู่ที่ 22,500 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 420 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 22,080 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.58 น.ของวันที่ 04/07/16)
แนวโน้มวันที่ 05 กรกฎาคม 2559
ผลกระทบจาก Brexit อาจจะใช้เวลานานกว่าที่ประเมินไว้ เนื่องจากยังไม่มีการวางแผนการใดๆที่เป็นรูปธรรมหลังทราบผลการทำประชามติ นักลงทุนจับตาว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากอียูอย่างไร และจะเกิดคามปั่นป่วนตามมามากน้อยเพียงใด เหตุผลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้ จนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง เมื่อนโยบายของเฟดจะยังคงผ่อนคลายต่อไป ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีดิ่งลง แตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี ได้ลดความน่าดึงดูดใจของพันธบัตรสหรัฐ ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนทองคำ ทั้งนี้ ข้อมูลของสำนักงานระบบการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราจีน (CFETS) พบว่า ดัชนีสำหรับค่าเงินหยวนที่อิงตามตะกร้าที่มีการถ่วงน้ำหนักการค้าของตลาดอยู่ที่ระดับ 94.88 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สกุลเงินหยวนอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์เป็นจำนวนมหาศาลในช่วงเปิดตลาดต้นสัปดาห์นี้ จนสกุลเงินหยวนในตลาดสปอตดิ่งลงทดสอบระดับ 6.6642 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2010 จากความวิตกที่ว่า ธนาคารกลางจีนจะยอมรับการอ่อนค่าลงอีกของหยวน ได้กระตุ้นให้คนจีนเข้าถือครองทองคำแทนการถือครองสกุลเงินหยวนเพื่อปกป้องความมั่งคั่งของตน ขณะที่รอยเตอร์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำสุด ถึง 6.8 ต่อดอลลาร์ในปีนี้ และนั่นจะเท่ากับการลดค่าเงินหยวนลง 4.5% ใน ปี 2016 ทางการจีนเปิดเผยผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตอยู่ในภาวะอ่อนแอในเดือนมิถุนายน ในขณะที่ยอดสั่งซื้อเพื่อส่งออกและสต็อกสินค้าคงคลังร่วงลง และภาคโรงงานปลดคนงานออกมากยิ่งขึ้น เพิ่มแรงกระตุ้นเงินเม็ดเงินให้หลั่งไหลออกจากจีนเพิ่มสูงขึ้น กระแสดังกล่าวยังคงสร้างแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนระยะสั้นสามารถเก็งกำไรในกรอบ โดยต้องมีจุดตัดขาดทุนและทำกำไรให้ชัดเจน ซึ่งราคาทองคำอาจมีการดีดตัวในช่วงสั้นๆขึ้นมาบ้าง โดยประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ระดับ 1,358 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวรับได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,363 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ราคาทองคำมีแนวโน้มย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,334 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคายังหลุดแนวรับแรก ราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามนักลงทุนระยะกลางควรเผื่อเงินไว้สะสมทองคำเพิ่มเติมหากราคามีการปรับตัวลงมาบริเวณ 1,315-1,305 ดอลลาร์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,334 (22,120บาท) 1,322 (21,920บาท) 1,315 (21,810บาท)
แนวต้าน 1,358 (22,520บาท) 1,363 (22,610บาท) 1,375 (22,810บาท)
GOLD FUTURES (GFQ16)
แนวรับ 1,334 (22,230บาท) 1,322 (22,030บาท) 1,315 (21,920บาท)
แนวต้าน 1,358 (22,640บาท) 1,363 (22,720บาท) 1,375 (22,920บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999