รายละเอียดเกี่ยวกับประวัติออเร้นจ์

ข่าวทั่วไป Thursday December 13, 2001 17:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ-13 ธ.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
"ในอนาคต ผู้คนจะคิดว่าเป็นเรื่องแปลกที่ในครั้งหนึ่งเสียงเคยเดินทางตามสาย" การเปิดบริการของออเร้นจ์ที่อังกฤษในเดือนเมษายน 2537
ภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ออเร้นจ์ต้องเผชิญในช่วงเปิดตัวเป็นเรื่องยากที่เราจะมองเห็นคุณค่าในวันนี้หากเทียบจากความนิยมของโทรศัพท์มือถือปัจจุบัน ย้อนกลับไปในปี 2537 ตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอังกฤษเป็นตลาดที่สร้างความสับสนให้กับลูกค้า ในขณะนั้นเพิ่งมีการแนะนำโครงข่ายดิจิตอลโดยมีผู้คนเพียงส่วนน้อยที่เข้าใจถึงคุณประโยชน์ของโครงข่ายนี้ค่าธรรมเนียมทีซับซ้อนและราคาที่สูงลิ่วทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นที่สนใจแต่เฉพาะกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ เนื่องจากผู้ใช้บริการต้องจดทะเบียนในสัญญา 3 ปี ทั้งยังต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนและค่าใช้บริการโทรศัพท์ในราคาที่สูงมาก โดยมีประเภทของบริการที่ค่อนข้างจำกัดและไม่มีความยืดหยุ่น
ในเดือนเมษายน 2537 ออเร้นจ์ได้เข้าสู่ตลาดอังกฤษ โดยเป็นผู้ให้บริการรายล่าสุดในจำนวน 4 ราย ด้วยจุดมุ่งหมายอันท้าทายที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการระบบสื่อสารแบบ wirefree TM ที่ผู้บริโภคเจาะจงเลือกใช้เป็นอันดับแรก
เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายดังกล่าว ออเร้นจ์เริ่มสร้างเอกภาพที่แข็งแกร่ง แปลกใหม่ และชัดเจนซึ่งทำให้ออเร้นจ์ฉีกแนวและโดดเด่นในตลาดที่เต็มไปด้วยการใช้ศัพท์ไฮเทคและการตั้งราคาที่สลับซับซ้อน และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการ นวัตกรรมด้านบริการของออเร้นจ์อาทิ แพ็กเกจ Talk Plans ที่คุ้มค่าเงิน การคิดค่าโทรตามวินาที การแสดงหมายเลขโทรเข้าบริการแสดงรายละเอียดในใบเรียกเก็บเงินโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง ล้วนเป็นปัจจัยที่พลิกทัศนคติของผู้คนที่มีต่อการสื่อสารเคลื่อนที่โดยสิ้นเชิง
เมื่อสิ้นปี 2538 ออเร้นจ์มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าทวีคูณเป็นจำนวน 785,000 ราย เปรียบเทียบกับ 379,000 รายเมื่อสิ้นปี 2537
ในปี 2539 ออเร้นจ์ พีแอลซี ได้จดทะเบียนในตลาดหลัดทรัพย์ลอนดอนและแนสแดค พร้อมนำหุ้นออกขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 เมษายน 2539 ในตลาดหุ้นลอนดอนที่ราคา 205 เพนนีต่อหุ้น โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ในขณะนั้นคือ ฮัทชิสัน วัมปาว (ร้อยละ 48) และบริติซ แอโรสเปซ (ร้อยละ 22) ทำให้ออเร้นจ์ พีแอลซี กลายเป็นบริษัทน้องใหม่ที่สุดที่เข้าสู่ตลาดหุ้นอังกฤษด้วยมูลค่าบริษัท 2,400 ล้านปอนด์
ในเดือนกรกฎาคม 2540 บริษัทฯ ได้จารึกประวัติศาสตร์สำคัญของธุรกิจออเร้นจ์เป็นครั้งแรกเมื่อมีฐานลูกค้าครบ 1 ล้านคน ออเร้นจ์ พีแอลซี ได้รับเลือกให้เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการยอดเยี่ยมแห่งปี 2541 จากบริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์อังกฤษตลอดทั้งปี
ในเดือนมิถุนายน 2542 ออเร้นจ์ คว้ารางวัล NetWest/Sunday Time Business Enterprise Award ซึ่งได้ให้คำนิยามออเร้นจ์ว่าเป็น"หนึ่งในธุรกิจที่มีประวัติความสำเร็จอันโดดเด่นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา"และเป็นบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและเจตนารมณ์อันแน่วแน่ต่อการพัฒนาศักยภาพในวงการโทรคมนาคมเคลื่อนที่ในระยะยาว
จากการสร้างธุรกิจจนมีรากฐานมั่นคงในประเทศอังกฤษ ออเร้นจ์ได้เริ่มเล็งหาตลาดนอกประเทศซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ ในปี 2541 บริษัท ออเร้นจ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ เอสเอ ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่จีเอสเอ็ม 1800 เมกะเฮิร์ตซ ในสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากนั้นเพียง 12 เดือนต่อมา บริษัท ออเร้นจ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ เอสเอ ได้ก้าวขึ้นครองอันดับสองด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 17 โดยมีอัตราการขยายฐานลูกค้าที่สูงที่สุด
ต่อมา ออเร้นจ์ได้เปิดบริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ wirefree TM ในเบลเยียมและออสเตรียและในสิ้นปี 2542 ออเร้นจ์ได้ให้ลิขสิทธิ์การทำตลาดแบรนด์ออเร้นจ์แก่ผู้ให้บริการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับออเร้นจ์ในฮ่องกง ออสเตรเลีย อิสราเอล และอินเดีย ในเดือนกันยายน 2541 ออเร้นจ์ได้เปิดบริการในฮ่องกง โดยก้าวจากอันดับสี่ขึ้นสู่อันดับหนึ่งในอันดับหนึ่งในตลาดภายในระยะเวลาเพียงหกเดือน ในอิสราเอล ออเร้นจ์มีลูกค้ากว่า 400,000 รายในปีแรกของการให้บริการโดยได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในอิสราเอล
ในเดือนตุลาคม 2542 บริษัท มานส์แมน เอจี (ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทผู้ให้บริการระบบชั้นนำในเยอรมนี) ประกาศเข้าซื้อกิจการของออเร้นจ์ พีแอลซี โดยใช้การแลกหุ้นมานส์แมน 0.0965 หุ้น กับเงินสด 6.40 ปอนด์ ต่อหุ้นออเร้นจ์หนึ่งหุ้น คิดเป็นมูลค่าสุทธิรวม 19,800 ล้านปอนด์การขายหุ้นครั้งนั้นดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2543 และออเร้นจ์ได้ดอกหุ้นออกจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนและแนสแดคนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในช่วงเวลาดังกล่าว โวดาโฟนได้เข้าซื้อกิจการของมานส์แมนอีกทอดหนึ่ง ซึ่งเป็นการซื้อกิจการที่ต้องผ่านการอนุมัติของคณะกรรมาธิการแห่งยุธโรป (European Commission) โดยมีเงื่อนไขให้โวดาโฟนขายกิจการของออเร้นจ์ พีแอลซี
ในเดือนสิงหาคม 2543 ฟรานซ์เทเลคอม เข้าซื้อกิจการของออเร้นจ์ พีแอลซี มูลค่ารวม 25,100 ล้านปอนด์จากโวดาโฟน หุ้นของธุรกิจ wirefee TM ของออเรนจ์ พีแอลซี ทั้งหมดได้ถูกนำไปผนวกรวมกับหุ้นประเภทเดียวกันของฟรานซ์เทเลคอมเพื่อจัดตั้งกลุ่มบริษัท ออเร้นจ์ เอสเอ
ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2544 ออเร้นจ์ เอสเอ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์ปารีส(ชื่อเดิมคือ ปารีสบูรส์) และเข้าตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนเป็นตลาดที่สอง โดยราคาหุ้นในตลาดฝรั่งเศสอยู่ที่ 10 ยูโรต่อหุ้น และในตลาดลอนดอนอยู่ที่ 6.4 ปอนด์ต่อหุ้น
แม้จะมีการเปลี่ยนเจ้าของ ออเร้นจ์ก็ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอการบริการชั้นเลิศแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤษภาคม 2544 ออเร้นจ์ แห่งอังกฤษได้รับการจัดอันดับจากสถาบันวิจัยอิสระ เจดี เพาเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ให้เป็นบริษัทยอดเยี่ยมในด้านการสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าผู้ใช้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอังกฤษเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2544 ออเร้นจ์มีฐานลูกค้ามากกว่า 37 ล้านรายในประเทศที่บริษัทมีอำนาจบริหารงาน อันได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ โรมาเนีย เดนมาร์ก สโลวาเกีย สวีเดน ไอวอรี่ โคสต์ สาธารณรัฐโดนินิกัน แคเมอรูม บอตสวานา และมาดากัสการ์ นอกจากนี้ ออเร้นจ์ยังถือหุ้นส่วนน้อยในบริษัทที่ประกอบการในประเทศอิตาลี เยอรมนี โปรตุเกส ออสเตรีย ไทย และมุมไบ (อินเดีย)
ในเดือนพฤษภาคม 2544 ออเร้นจ์ เอสเอ ได้รับการจัดอันดับใน CAC40 ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำ 40 อันดับแรกที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของฝรั่งเศส
ออเร้นจ์ เอสเอ เป็นหนึ่งในบริษัทด้านการสื่อสารชั้นนำของโลก วันนี้ ออเร้นจ์ เป็นผู้นำในตลาดอังกฤษและฝรั่งเศส นอกจากนี้ ออเร้นจ์ ยังเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรป บริษัทในเครือออเร้นจ์ยังได้รับใบอนุญาตประกอบการระบบเอเนอเรชั้นหน้า(UMTS) ในประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี อิตาลี ออสเตรีย สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ โปรตุเกส เบลเยียม และฝรั่งเศส--จบ--
-ปส-

แท็ก อังกฤษ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ