ตลาดหลักทรัพย์ขยายรับคำสั่งซื้อขายได้สูงสุดเป็น 10 ล้านหลักทรัพย์ พร้อมแก้เกณฑ์ให้เอื้อต่อการซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน (Stabilization)

ข่าวทั่วไป Monday December 17, 2001 09:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้มีมติให้เพิ่มปริมาณการเสนอซื้อหรือขายหลักทรัพย์สูงสุดบนกระดานหลักทั้งของตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ จากเดิม 1 ล้านหลักทรัพย์สำหรับตลาดหลักทรัพย์ และ 1 แสนหลักทรัพย์สำหรับตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เป็น 10 ล้านหลักทรัพย์เช่นเดียวกันทั้งสองตลาด เพื่อให้การส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์มีความคล่องตัว และเหมาะสมกับภาวะการณ์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของหลักทรัพย์ พร้อมทั้ง ให้คำสั่งซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน (Stabilization) เป็นคำสั่งที่ได้รับการจัดลำดับและการระบุ ปริมาณหุ้นที่ซื้อได้ เช่นเดียวกับคำสั่งซื้อทั่วไป เพื่อเอื้ออำนวยให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ต้องซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินตามเงื่อนไขกรีนชู ออปชั่น สามารถซื้อหุ้นได้ตามจำนวนที่ต้องการ โดยยังคงเงื่อนไขหลักเกณฑ์ราคาเสนอซื้อไว้เช่นเดิม
"ปัจจุบันมีหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (Par Value) ทั้งสิ้น 16 หลักทรัพย์ ในจำนวนนี้ มี 6 หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนจาก 10 บาทเป็น 5 บาท และมี 10 หลักทรัพย์ที่เปลี่ยนจาก 10 บาท เป็น 1 บาท และมีแนวโน้มที่จะมีหลักทรัพย์ที่จะเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้อีก ซึ่งหมายความว่าจะทำให้จำนวนหุ้นในตลาดเพิ่มขึ้นอีกถึง 10 เท่าได้ในอนาคต
ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ และเพื่อให้การซื้อขายหลักทรัพย์มีความคล่องตัวมากขึ้น จึงได้มีการขยายจำนวนหุ้นสูงสุดในการส่งคำสั่งเสนอซื้อหรือขายแต่ละคำสั่งบนกระดานหลัก จากเดิม 1 ล้าน หลักทรัพย์ เป็น 10 ล้านหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกันกับอัตราการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่จะทำให้มีจำนวนหุ้นเพิ่มมากขึ้นของหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์" นายกิตติรัตน์กล่าว
สำหรับการปรับหลักเกณฑ์การซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินของหลักทรัพย์ที่มีเงื่อนไขตามกรีนชู ออปชั่นนั้น ตลาดหลักทรัพย์ได้อนุญาตให้คำสั่งซื้อดังกล่าว ได้รับการจัดลำดับเช่นเดียวกับคำสั่งซื้อทั่วไป จากเดิมที่คำสั่งซื้อประเภทนี้ ต้องเป็นคำสั่งที่ต่อท้ายคำสั่งซื้ออื่น ๆ (Last Priority) หากมีผู้ส่งคำสั่งที่มีราคาเสนอซื้อเข้ามาในราคาเดียวกัน นั่นคือ คำสั่งที่ส่งเข้ามาจะได้รับการเรียงลำดับตามราคาและเวลาที่เข้ามาในระบบซื้อขาย (Price and Time Priority) นอกจากนี้ ยังให้สามารถระบุปริมาณหุ้นที่ต้องการซื้อได้เต็มจำนวน จากเดิมที่ ต้องระบุเงื่อนไข Publish Volume โดยส่งคำสั่งซื้อได้ครั้งละไม่เกิน 1,000 หุ้นและได้อนุญาตให้สามารถส่งคำสั่งเข้ามาได้ตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดตลาดหรือ Pre-open จากเดิมที่ส่งคำสั่งเข้ามาได้เมื่อเปิดตลาดแล้วเท่านั้น
"การปรับหลักเกณฑ์นี้ จะเอื้ออำนวยให้บริษัทหลักทรัพย์ที่ต้องทำการซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน สามารถซื้อหุ้นเพื่อไปส่งมอบได้สะดวกขึ้น ทั้งนี้ เกณฑ์ดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นแต่อย่างใด เนื่องจากการส่งคำสั่งซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินนั้น จะต้องเป็นราคาที่ไม่สูงกว่าราคาที่ต่ำสุดของราคาอ้างอิง ซึ่งได้แก่ ราคาเสนอซื้อสูงสุด (Best Bid) หรือราคาเสนอซื้อขายครั้งสุดท้าย (Last Execution Price) หรือราคาเสนอขายต่อประชาชน (Public Offering Price) ดังนั้น จึงไม่ถือว่ามีผลกระทบต่อราคาซื้อขายของหลักทรัพย์นั้น ๆ แต่อย่างใด" กรรมการและผู้จัดการสรุป
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร :
ลดาวัลย์ ไทยธัญญพานิช โทร. 0-2229 - 2036 / กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 / จิวัสสา ติปยานนท์ โทร. 0-2229 - 2039--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ