ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกติดดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ เป็นปีที่สามติดต่อกัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 12, 2016 17:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป • พัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สาม • โครงการ SeaChange® ขับเคลื่อนคะแนนด้านการบริหารจัดการประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อความยั่งยืนของบริษัท ขึ้นแท่นผลงานที่เด่นที่สุดในอุตสาหกรรมของการประเมินในหัวข้อนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและแปรรูปปลาทูน่ากระป๋องคุณภาพสูงรายใหญ่ที่สุดของโลก และเจ้าของแบรนด์อาหารทะเลชั้นนำทั่วโลก ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาว โจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) ตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่สามติดต่อกัน SeaChange® กลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนเป็นโครงการที่ขับเคลื่อนคะแนนด้านการผลักดันโครงการให้เป็นรูปธรรม โดยอยู่ในลำดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 100 นับเป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดในอุตสาหกรรมในการประเมินหัวข้อนี้ นอกจากนี้ ความพยายามในเรื่องจรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน (Business Ethics and Labor Code of Conduct) และความพยายามในด้านสิทธิมนุษยชน (labor and human right) ส่งผลต่อคะแนนที่ปรับสูงขึ้น โดยอยู่ในลำดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 96 และ 91 ตามลำดับ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสามปีแสดงให้เห็นว่าความพยายามทั้งหลายที่บริษัทไทยยูเนี่ยนวางรากฐานไว้ กำลังประสิทธิผล ทั้งในด้านการดำเนินงานเพื่อความยั่งยื่น และการมีความรับผิดชอบต่อธุรกิจและทั้งห่วงโซ่อุปทาน "เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ความพยายามดำเนินงานตามแนวทางด้านความยั่งยืนของเราได้รับการยอมรับ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า เรากำลังเดินมาถูกทางแล้ว" นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าว "ความยั่งยืนมีความสำคัญต่ออนาคตของอุตสาหกรรมและโลกของเรา เราจะเดินหน้าต่อไปในการทำให้ความโปร่งใสและแนวปฏิบัติด้านจรรยาบรรณเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจของเรา ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมของเรา" เขากล่าว DJSI เป็นดัชนีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในการประเมินบริษัทระดับโลกในเรื่องการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ในแต่ละปีมีบริษัทมากกว่า 3,000 แห่ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประเมินด้านความยั่งยืนของธุรกิจ (Corporate Sustainability Assessment หรือ CSA) ของบริษัท RobecoSAM บริษัทที่จะได้รับการคัดเลือกเข้ามาอยู่ในดัชนี จะต้องผ่านการประเมินในด้านต่างๆ ครอบคลุมเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมในระยะยาวทั้งในแง่แนวโน้มความยั่งยืนทั่วไปและแนวโน้มความยั่งยืนเฉพาะอุตสาหกรรม มีเพียงบริษัทที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมที่ผ่านเกณฑ์การประเมินนี้เท่านั้นที่จะได้รับเลือกให้อยู่ในดัชนี ในปี 2557 ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ปเป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่ได้รับเลือกให้อยู่ในดัชนี DJSI ประเภทธุรกิจอาหาร "ความยั่งยืนเป็นความจำเป็นระดับโลกที่ต้องการพันธกิจระดับโลก เราต้องการส่งเสริมให้ทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยผลักดันกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน SeaChange® การใช้จรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน และแนวทางปฏิบัติที่สำคัญด้านอื่นๆ การที่องค์กรสากล ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระให้การยอมรับความพยายามและการดำเนินงานของเราในด้านความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน นับเป็นรางวัลที่ให้กำลังใจในการทำงานต่อไปของเรา," ดร.แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าว เพื่อตอกย้ำพันธกิจด้านความโปร่งใส บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้เปิดให้สาธารณะมีส่วนร่วมในการหารือเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และพันธกิจของกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน SeaChange® ของบริษัท ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาคส่วนต่างๆ ได้รับเชิญมาเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาและขอบเขตของเป้าหมายของการดำเนินงานหลัก 4 ด้านของกลยุทธ์นี้ ซึ่งครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยและแรงงานที่ถูกกฎหมาย, การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล, การจัดหาแหล่งวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ, และการดูแลชุมชนของเรา โดยความเห็นต่างๆ ที่บริษัทได้รับ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน และเรากำลังอยู่ระหว่างแก้ไขฉบับปรับปรุงตามคำแนะนำของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เราจะเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ของ SeaChange® ซึ่งจะมีข้อมูลอัพเดทความก้าวหน้าของโครงการ และจะเป็นพื้นที่สำหรับเรื่องราวและการหารือร่วมกันทั้งอุตสาหกรรมโลก โดยเน้นไปที่แนวทางที่ไทยยูเนี่ยนสามารถพลิกโฉมธุรกิจอาหารทะเลให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน" เกี่ยวกับบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่งส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องคุณภาพที่สามารถเก็บไว้ได้นานที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า1.25 แสนล้านบาท (3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 46,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม มีความยั่งยืน และเป็นผู้บุกเบิกตลาดแบรนด์ผลิตภัณฑ์ทั่วโลกในเครือบริษัทรวมถึง แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu ,King Oscar, และ Rügen Fisch และแบรนด์ไทยที่ติดตลาดอย่าง ซีเล็ค, ฟิชโช่ และเบลลอตต้า จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation) ความพยายามด้านความยั่งยืนของบริษัทได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาว โจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 ในปี 2559 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่สามติดต่อกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ