ชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง โพล รีเซต ปฏิรูปการเมือง กับความต้องการของสาธารณชนต่อนักการเมืองในการปฏิรูปตัวเอง

ข่าวทั่วไป Tuesday September 13, 2016 09:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ดร.นพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดผลสำรวจ เรื่อง โพล รีเซต ปฏิรูปการเมือง กับ ความต้องการของสาธารณชนต่อนักการเมืองในการปฏิรูปตัวเอง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,259 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 7 - 9 กันยายน ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.3 ระบุกลุ่มคนที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งในหมู่ประชาชนมากที่สุดได้แก่ นักการเมือง รองลงมาคือร้อยละ 10.9 ระบุ สื่อมวลชน และที่เหลือร้อยละ 2.8 ระบุ อื่นๆ เช่น ประชาชนที่แบ่งขั้ว นายทุนพรรคการเมือง ตำรวจ และ ทหาร เป็นต้น นอกจากนี้ เมื่อถามถึง พรรคการเมืองที่กำลังเสนอทางออกให้ประเทศที่ชอบมากที่สุดในขณะนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.1 ระบุ ไม่มีพรรคใดเลย อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 14.6 ระบุพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่ ร้อยละ 11.5 ระบุพรรคเพื่อไทย และร้อยละ 4.8 ระบุพรรคอื่นๆ ตามลำดับ เมื่อถามถึง พฤติกรรมนักการเมืองที่ควรปรับปรุงแก้ไขเพื่อปฏิรูปตัวเอง มีอะไรบ้าง พบว่า ส่วนใหญ่ที่สุดคือ ร้อยละ 93.3 ระบุ การทุจริต คอรัปชั่น รองลงมาคือ ร้อยละ 88.5 ระบุ หาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้องเครือญาติ ร้อยละ 82.9 ระบุ ยั่วยุ ก้าวร้าว ปลุกระดมความขัดแย้ง ร้อยละ 80.6 ระบุ กร่าง โอ้อวด พัวพันผู้มีอิทธิพล เป็นต้น ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อ การรีเซต ปฏิรูปการเมือง พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.6 ระบุ เห็นด้วย เพราะ จะไม่เสียของ ต้องการให้ขจัดปัญหาทุจริต คอรัปชั่น จัดระเบียบนักการเมือง ต้องการนักการเมืองหน้าใหม่ มีอุดมการณ์ ทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนแท้จริง เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 22.4 ระบุ ไม่เห็นด้วย เพราะ ต้องการให้ประชาชนและพรรคการเมืองมีส่วนร่วม อยากเห็นการทำงานแก้ปัญหาสำคัญร่วมกัน และไม่ชอบการปิดกั้น คิด ทำกันแต่ในกลุ่มคนไม่กี่คน เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ