เครือข่ายสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟจับมือลุยขยายตลาดธุรกิจกาแฟ เผยปีนี้รวบรวมผลผลิตได้ 6,380 ตัน มูลค่า 508 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Friday September 23, 2016 09:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดเวทีหารือขยายตลาดธุรกิจกาแฟ ดึงสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟทั่วประเทศรวมกลุ่มสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการผลิตและการตลาด หลังวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดกาแฟในประเทศยังมีอนาคตสดใส ผู้บริโภคยังนิยมดื่มกาแฟเพิ่มมากขึ้น เผยปี 2559 สหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟสามารถรวบรวมผลผลิตส่งขายให้เอกชนได้ปริมาณ 6,380 ตัน มูลค่า 508 ล้านบาท นายปริญญา เพ็งสมบัติ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กาแฟยังคงเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ที่ทำรายได้ให้เกษตรกรปีละประมาณ 4,400 ล้านบาท โดยในช่วงปี 2554-2558 ตลาดกาแฟมีการขยายตัวอย่างมาก ความต้องการใช้เมล็ดกาแฟของโรงงานแปรรูปกาแฟในประเทศเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันผลผลิตกาแฟในประเทศกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคากาแฟที่ตกต่ำเป็นเวลานาน ทำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นแทน เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และไม้ผล อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมสหกรณ์ ยังคงให้ความสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้สหกรณ์และ กลุ่มเกษตรกร ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมและแปรรูปผลผลิตกาแฟจากสมาชิก พัฒนาการดำเนินธุรกิจให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ ในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟ ได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการส่งเสริมสนับสนุนในเรื่องการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนปลอดดอกเบี้ย เพื่อซื้อกาแฟสาร และวัสดุอุปกรณ์ในการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้ากาแฟ นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้สนับสนุนเงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ในการจัดซื้อกาแฟสาร เพื่อให้สหกรณ์มีเงินทุนเพียงพอสำหรับการรวบรวมผลผลิตกาแฟ ส่งผลให้สามารถ ลดอุปทาน (Supply) กาแฟในตลาดในช่วงฤดูกาลที่ผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณมาก และสร้างอำนาจการต่อรองด้านราคาให้กับสหกรณ์ สำหรับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีศักยภาพในการแปรรูปกาแฟเป็นกาแฟคั่ว กาแฟคั่วบด กาแฟ 3IN1 ยังมีโอกาสในการขยายตลาดในการจำหน่ายกาแฟอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในฤดูกาลผลิตกาแฟ 2558/2559 ที่ผ่านมาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ได้มีการดำเนินธุรกิจรวบรวมและจำหน่ายกาแฟ รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์กาแฟเพื่อจำหน่าย สามารถรวบรวมและจำหน่ายกาแฟสารให้กับผู้ประกอบการกาแฟ และบริษัทผู้ผลิตกาแฟสำเร็จรูปในประเทศไทย จำนวน 6,380 ตัน คิดเป็นมูลค่า 508 ล้านบาท ทั้งนี้ กองพัฒนาสหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจของเครือข่ายสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินธุรกิจกาแฟ" โดยมีตัวแทน สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ที่ดำเนินธุรกิจกาแฟในพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่ภาคเหนือ รวม 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร ระนอง เชียงใหม่ เชียงราย น่าน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมทั้งหมด 70 คน เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเพิ่มมูลค่าและขยายช่องทางการตลาดกาแฟ พร้อมกันนี้ ยังได้นำคณะผู้เข้าอบรมไปศึกษาดูงานที่ศูนย์อบรมธุรกิจศูนย์ธุรกิจคาเฟ่อเมซอนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้รับทราบข้อมูลว่าตลาดกาแฟสดยังมีอนาคตที่สดใส ผู้บริโภคยังนิยมดื่มกาแฟเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสหกรณ์ยังมีโอกาสจะพัฒนาไปสู่การดำเนินธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม สหกรณ์จะต้องจัดทำฐานข้อมูลการผลิตของสมาชิก ฐานข้อมูลกลุ่มผู้ผลิตกาแฟคุณภาพ การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตกาแฟคุณภาพ และเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจกาแฟแบบผู้ประกอบการมืออาชีพ เพื่อให้ธุรกิจกาแฟของสหกรณ์เกิดความยั่งยืน สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันการดำเนินธุรกิจกาแฟภายในประเทศต่อไป
แท็ก ข้อมูล   ลุย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ