พีแอนด์จีคาดทำยอดขาย 11,500 ล้านบาท รอบปีบัญชีสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2544 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25%

ข่าวทั่วไป Wednesday June 6, 2001 16:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
ซื้อที่ดิน 80 ไร่สำหรับรองรับการขยายการผลิต
ตั้งบริษัทที่สองในประเทศไทย
กรุงเทพฯ (6 มิถุนายน 2544) - บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (พีแอนด์จี) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ แถลงผลประกอบการล่าสุด คาดมียอดขาย 11,500 ล้านบาทในรอบปีบัญชีซึ่งจะสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2544 เพิ่มขึ้น 25% จากยอดขาย 9,200 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว และสูงกว่ายอดประมาณการณ์ของบริษัท
มร. เจฟฟ์ ฮันส์เบอร์รี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีแอนด์จี ประเทศไทย เปิดเผยว่า "ยอดขายที่เติบโตขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการส่งออกหลักระดับภูมิภาคและระดับโลก และยอดขายในประเทศเองก็มีการเติบโตขึ้นเช่นกัน แม้ว่าสภาวะทางเศรษฐกิจจะไม่ค่อยเอื้อนักก็ตาม"
เขากล่าวว่า ในปีที่แล้วพีแอนด์จี ประเทศไทยได้วางตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ 30 รายการ ซึ่งมีทั้งผลิต-ภัณฑ์ตราใหม่ แบบใหม่ และสูตรใหม่ พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า "กลยุทธ์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจของ พีแอนด์จีในสภาวะตลาดปัจจุบัน อยู่ที่การเน้นให้ความสำคัญกับนวัตกรรม" ทั้งนี้ เขาคาดการณ์ว่าในช่วงเวลา 12 เดือนข้างหน้า พีแอนด์จี ประเทศไทยจะมียอดขายเติบโตขึ้น 10% และจะมีการแนะนำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อีกประมาณ 30 รายการ เขาระบุว่า ธุรกิจของบริษัทได้ขยายตัวขึ้นเกือบเท่าตัว นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ (จาก 5,900 ล้านบาทในปี 2540) อันเป็นผลมาจาก กลยุทธ์การแนะนำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าและคุ้มค่าคุ้มราคาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง "เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจ เราได้ซื้อที่ดินในเขตนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์เพิ่มอีก 80 ไร่ ซึ่งจะ ทำให้เรามีที่ดินในนิคมฯ ดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 60 ไร่" มร. ฮันส์เบอร์รี่ กล่าว ในการซื้อที่ดินดังกล่าวพีแอนด์จีได้ใช้งบลงทุนอีก 250 ล้านบาท เพิ่มเติมจากงบจำนวน 11,900 ล้านบาทซึ่งบริษัทเริ่มลงทุนในปี 2542 เพื่อตั้งโรงงานผลิตเพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผม ผลิต-ภัณฑ์ถนอมผิว ผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเด็กและผ้าอนามัย ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานผลิตเพื่อการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียของพีแอนด์จี
นอกจากนี้ มร. ฮันส์เบอร์รี่ยังได้เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้พีแอนด์จีจะจัดตั้งบริษัทดำเนินงาน แห่งที่สองขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของพีแอนด์จีในประเทศไทย
"เมื่อพิจารณาศักยภาพการเติบโตของฐานผลิตเพื่อการส่งออกในประเทศไทยแล้ว เราได้ตัดสินใจที่จะตั้งธุรกิจการผลิตเพื่อส่งออก โดยจะแยกออกมาเป็นอีกองค์กรหนึ่ง ซึ่งสามารถจะเน้นให้ความสำคัญกับบทบาทระดับภูมิภาคโดยเฉพาะคือ การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตที่ประสบความสำเร็จ โดยบริษัทดังกล่าวจะใช้ชื่อว่า พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด"
"อีกบริษัทหนึ่งของเราซึ่งมีชื่อว่า พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด จะมีภารกิจในการตอบสนองความต้องการของตลาดภายในประเทศโดยเฉพาะ โดยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการสร้างธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคในเมืองไทยให้ดีที่สุด" มร. ฮันส์เบอร์รี่ กล่าว
มร. ฮันส์เบอร์รี่ เปิดเผยว่า ในรอบปีบัญชีนี้ความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของพีแอนด์จี ประเทศไทยได้แก่ การแนะนำผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกายสำหรับผู้หญิง 'ซีเคร็ท' และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 'แอสเซ็นด์' สู่ตลาดเมืองไทย
"ขณะนี้ซีเคร็ทก้าวขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกายสำหรับผู้หญิงประเภทสติ๊กอันดับหนึ่งของเมืองไทยแล้ว โดยมียอดขายมากกว่าอันดับสองถึงสองเท่า ขณะที่ครีมนวดผมแอสเซ็นด์ก็ก้าวขึ้นเป็นครีมนวดผมอันดับสามของตลาดเมืองไทยในระยะเวลาเพียงแปดเดือน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของพีแอนด์จีมีส่วนแบ่งเกือบ 25% ในตลาดครีมนวดผมรวม" มร. ฮันส์เบอร์รี่ กล่าว
การเปิดตัว 'ซีเคร็ท' นับเป็นครั้งแรกในการเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกายมูลค่า 1,500 ล้านบาทของพีแอนด์จี โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสาน 2 คุณสมบัติในการทำงาน ระหว่างสารระงับเหงื่อซึ่งช่วยลดการหลั่งของเหงื่อซึ่งนำไปสู่การเกิดกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนา เข้ากับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกลิ่นกาย พร้อมทั้งมอบกลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย ซีเคร็ทเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่และได้รับการผลิตออกมาในรูปแบบสติ๊ก จึงแห้งทันทีเมื่อใช้ทาใต้วงแขน ผู้ใช้จึงรู้สึกแห้งสบายตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่ทิ้งคราบขาวบนเสื้อผ้า
ผลิตภัณฑ์พฤกษาบำรุงผม 'แอสเซ็นด์' ประกอบด้วยแชมพู ครีมนวดผม และมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงเส้นผม สูตรไม่ต้องล้างออก (ลีฟ-ออน) แบรนด์แรกของไทย โดยสามารถจะใช้ได้ทั้งกับผมที่เปียกหรือผมแห้ง ทุกเวลาที่รู้สึกว่าผมต้องการการบำรุง โดยไม่ต้องล้างออก ซึ่งนับเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่พีแอนด์จีพัฒนาขึ้นเพื่อผู้บริโภคชาวเอเชียโดยตรง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องการมีผมดำสวยมีชีวิตชีวา
พีแอนด์จีก่อตั้งในประเทศไทยในปี 2530 ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 1,000 คนปฏิบัติงานประจำสำนักงานในกรุงเทพฯ โรงงานผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และศูนย์กระจายสินค้าประจำภูมิภาค
พีแอนด์จี ประเทศไทยวางตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแพนทีน โปร-วี, รีจอยส์, เฮดแอนด์โชว์เดอร์, และแอสเซ็นด์ ผลิตภัณฑ์ถนอมผิวโอเลย์ สบู่เพื่อสุขภาพผิวเซฟการ์ด ผ้าอ้อมเด็กและผ้าเอนกประสงค์สำหรับเด็กแพมเพอร์ส ผ้าอนามัยวิสเปอร์ ผลิตภัณฑ์วิคส์ มันฝรั่งทอดกรอบพริงเกิลส์ น้ำยาขจัดกลิ่น-ติดผ้าฟีบรีซ และผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกายซีเคร็ท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด ชัชฎาภา วิจิตรานนท์ หรือ ปานตา พูนทรัพย์มณี โทร. 664 9500 ต่อ 111 หรือ 116 โทรสาร 664 9515--จบ--
-สส-

แท็ก บัญชี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ