บลูสโคป เดินหน้าลงทุนขยายกำลังการผลิตเหล็กเคลือบโลหะโรงงานที่3 เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้เหล็กเคลือบโลหะที่เพิ่มขึ้น

ข่าวอสังหา Thursday October 6, 2016 12:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--อินทิเกรเต็ดคอมมูนิเคชั่น บลูสโคป เดินหน้าลงทุนขยายกำลังการผลิตเหล็กเคลือบโลหะโรงงานที่3 เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้เหล็กเคลือบโลหะที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของไทย ประกาศลงทุนสร้างโรงงานผลิตเหล็กเคลือบโลหะ(Metallic Coating Line) โรงงานที่ 3 อย่างเป็นทางการเพื่อขยายกำลังการผลิต ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง นายสมเกียรติ ปินตาธรรม ประธานบริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย)จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นเรียบเคลือบโลหะและเหล็กเคลือบสีชั้นนำของไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม"บลูสโคป" เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้รับการอนุมัติจากบอร์ดบริหารของบริษัทฯให้เดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กเคลือบโลหะแห่งใหม่ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท ( 125 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ) โดยจะทำหน้าที่ผลิตเหล็กเคลือบโลหะคุณภาพสูง เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้างของไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) จังหวัดระยอง การลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตในครั้งนี้ จะส่งผลให้บลูสโคป มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 140,000 ตันต่อปี และจะมีกำลังการผลิตโดยรวมมากกว่า 500,000 ตันต่อปี โดยจะเริ่มการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2559 และคาดว่าจะสร้างเสร็จและสามารถเดินสายการผลิตได้ ในเดือนกรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป โดยโรงงานใหม่จะสามารถผลิตเหล็กเคลือบที่มีความหนาสูงสุด 0.55มิลลิเมตร เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้เหล็กเคลือบโลหะในอุตสาหกรรมก่อสร้างอาคารขนาดเล็ก (SME) และตลาดที่พักอาศัยระดับกลางไปถึงล่าง นายสมเกียรติ ยังกล่าวเพิ่มว่า "การขยายการผลิตของโรงงานผลิตเหล็กมาบตาพุดครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของบลูสโคป ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพอันสดใสในการทำธุรกิจในประเทศไทยในระยะยาว ทั้งยังบ่งชี้ถึงเจตนารมณ์อันเด่นชัดของบริษัทที่มุ่งนำเสนอสิ่งดีๆให้แก่ลูกค้าในไทย และด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยในระยะยาวจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี โรงผลิตเหล็กแห่งใหม่นี้ จะผลิตเหล็กเพื่อตอบสนองความต้องการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของตลาดภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้างในไทย" และเสริมว่า "โรงงานมาบตาพุด เป็นโรงงานผลิตเหล็กที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผลิตเหล็กคุณภาพเยี่ยมภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อเสียงต่างๆ ได้แก่เหล็กเคลือบZINCALUMEÒ (ซิงคาลุม) และเหล็กเคลือบสี COLORBONDÒ (คัลเลอร์บอนด์) เหล็กเคลือบ BLUESCOPE Zacs Ò (บลูสโคป แซคส์) เป็นต้น นายสมเกียรติกล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนขยายกำลังการผลิต ครั้งนี้เพื่อตอบสนองการเติบโตของกลุ่มลูกค้าที่เป็นฐานลูกค้าเดิมที่มี Loyaltyสูง และมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปในตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้างและอาคารพานิชย์ ในอนาคต นอกจากนี้ บลูสโคปยังมี แผนการสร้างและเพิ่มช่องทาง การจัดจำหน่าย BlueScope Authorized Dealer เป็น 50 สาขา ทั่วทุกภูมิภาค ประเทศไทย ภายในปีนี้ โดยเน้นการนำเสนอสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง อาคารขนาดเล็ก (SME) และตลาดบ้านพักอาศัยระดับกลางไปจนถึงระดับล่าง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ BLUESCOPE Zacs Ò (บลูสโคป แซคส์) เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขยายตัวของตลาดอาคารและที่พักอาศัยในประเทศไทย โดยเอ็นเอส บลูสโคป มีศูนย์ฝึกอบรม BlueScope Training Center ที่จะคอยสนับสนุนโดยจัดให้มีโปรแกรมหลักสูตรการฝึกอบรมช่างฝีมือแรงงาน เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ในการติดตั้งแผ่นผนังหลังคาเหล็กเมทัลชีท และโครงสร้างเหล็กอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังจัดให้มีกิจกรรมทางการตลาดหน้าร้านตัวแทนจำหน่าย เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างร้านค้าและลูกค้า ส่งเสริมให้ลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหรือเจ้าของโครงการเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เหล็กมากยิ่งขึ้น นอกจากในส่วนแผนการการขยายการลงทุน และการพัฒนาธุรกิจแล้ว นายสมเกียรติ ยังได้กล่าวเปิดตัวกิจกรรม ครบรอบ50ปี ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์ (COLORBOND®) ของ บลูสโคปซึ่งเริ่มต้นผลิตและจำหน่ายครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี ค.ศ. 1966 และเป็นที่รู้จักและยอมรับมาจนถึงปัจจุบันในกลุ่มสถาปนิก และวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากว่า 50 ปี โดยทางบลูสโคป ประเทศไทย ได้ถือโอกาสพิเศษนี้ จัดนิทรรศการโชว์ภาพผลงานระดับนานาชาติ ภายใต้ชื่องาน "Steel Profile Exhibition" นำเสนอภาพผลงานที่น่าสนใจและโครงการที่ได้รับรางวัลจำนวน 50 โครงการ และเป็นโครงการที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสีคัลเลอร์บอนด์มาใช้ในงานออกแบบและก่อสร้าง ทั้งประเภทงานอาคารพานิชย์ (Commercials) งานอาคารสถาบันและอาคารสาธารณะ(Institutes & Public Buildings) และอาคารบ้านที่อยู่อาศัย (Residential ) เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อต้องการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆในงานออกแบบ การก่อสร้าง และการใช้งานผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบและเหล็กเคลือบสี ให้กับตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้า สถาปนิก นักศึกษา และคนทั่วไปที่สนใจ โดยสามารถเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการดังกล่าวได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โดยงานได้จัดให้มีขึ้นที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ตั้งแต่วันที่ 4- 16 ตุลาคม 2559

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ