แพทย์ออกมาเตือนหลังพบโลกออนไลน์แชร์ข้อมูลเรื่องการรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันโดยให้ใช้เข็มทิ่มนิ้วเจาะเลือดและรอดูอาการนั้นเป็นข้อมูลสุดมั่ว

ข่าวทั่วไป Friday October 14, 2016 12:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) แพทย์ออกมาเตือนหลังพบโลกออนไลน์แชร์ข้อมูลเรื่องการรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันโดยให้ใช้เข็มทิ่มนิ้วเจาะเลือดและรอดูอาการนั้นเป็นข้อมูลสุดมั่ว ระบุไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าทำแล้วมีประโยชน์ เตือนประชาชาอย่าหลงเชื่อเพราะจะทำให้ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสนาทีทองในการพบแพทย์เพื่อรักษาโรคให้ทันภายใน 4 ชั่วโมงไป พร้อมแนะประชาชนหากมีอาการปวดหัว แขนขาอ่อนแรง ตาพร่า มือชา ปากเบี้ยว พูดติดๆ ขัดๆ ให้รีบพบแพทย์ หรือโทร1669 เพื่อใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิป การนวดกดจุดที่บริเวณคอ โดยอ้างว่าเป็นการนวดเพื่อรีเฟรชสมอง โดยแพทย์ได้ออกมาให้ความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นอันตรายและจะทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงก้านสมองได้เพียงพอ และทำให้สมองส่วนการรับจอภาพเกิดการมืดลงและมองไม่เห็น ล่าสุดสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้รับร้องเรียนว่ามีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์ที่จะทำให้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงโดยโพสต์ที่ถูกแชร์มีข้อความระบุถึงวิธีในการปล่อยเลือดช่วยชีวิตโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันว่าหากผู้ป่วยมีอาการปากเบี้ยวให้ดึงหูและให้นำเข็มฉีดยาหรือเข็มเย็บผ้าแทงที่ปลายนิ้วแล้วบีบให้เลือดไหลออกมาจะเป็นการช่วยชีวิตผู้ป่วยและทำให้ผู้ป่วยฟื้นได้นั้น รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า อายุรแพทย์ประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ออกมาให้ข้อเท็จจริงว่า ข้อมูลที่แชร์กันทั้งในไลน์และในเฟซบุ๊กว่าการดึงหูและเอาเข็มทิ่มนิ้วแล้วบีบให้เลือดออกมาแล้วนอนดูอาการจะช่วยให้คนไข้หายจากโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันนั้นเป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้องและไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์หรือการศึกษาใดๆ ที่ที่ยืนยันว่าการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่จะมีประโยชน์และสามารถรักษาให้คนไข้หายได้ ไม่ว่าโรคใดๆ ก็ตามการเจาะเลือดออกที่ปลายนิ้วไม่มีประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วโรคหลอดเลือดสมองแตกเฉียบพลันจากภาวะความดันโลหิตสูงอย่างเรื้อรังนั้น เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด ดังนั้นใครที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจะต้องพบแพทย์เพื่อรักษาอาการของโรคอย่างสม่ำเสมอ โดยการรักษาจะมีสองส่วนคือการพบแพทย์เพื่อให้มีการตรวจวัดความดัน และตรวจเลือดเพื่อที่จะดูภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นเช่นมีภาวะหัวใจโตหรือไตวายหรือไม่ ซึ่งผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจำเป็นที่จะต้องพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาโดยการใช้ยาลดความดันควบคุมความดัน รวมทั้งการตรวจดูว่ามีโรคร่วมอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ เพราะผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงส่วนหนึ่งจะมีทั้งโรคไขมันในเลือดสูง หรือว่ามีภาวะเบาหวานร่วมด้วย อายุรแพทย์ประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำควบคู่กับการพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร โดยผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงนั้นจะต้องรับประทานอาหารที่มีรสจืด กินผักให้มากขึ้นกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลงเพราะถ้าผู้ป่วยกินอาหารที่มีรสเค็มและมีส่วนผสมของเกลือน้ำปลาหรือน้ำตาลในปริมาณที่มากขึ้นจะส่งผลให้ความดันโลหิตสูงควบคุมได้ยากและจะมีผลกระทบต่อการทำงานของไต ซึ่งเราต้องปรับพฤติกรรมในการรับประทานอาหารให้ได้ นอกจากนี้หากเราตรวจพบว่ามีภาวะไขมันในเลือดสูงด้วย เราก็ต้องควบคุมอาหารที่ทำให้มีไขมันในเลือดสูงเช่นอาหารมัน อาหารทอด หรืออาหารจำพวกแป้งน้ำตาลต่างๆ ทั้งนี้ตนยังพบข้อมูลว่ายังมีประชาชนจำนวนมากที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงแล้วยังมีความเข้าใจผิดว่าพอไม่มีอาการปวดหัวก็คิดว่าตนเองมีระดับความดันปรกติซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนที่เป็นความดันโลหิตสูงมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์คือไม่มีอาการใดๆ บ่งบอกเลย นอกจากเราจะมาพบแพทย์และตรวจวัดความดัน ถ้าความดันขึ้นสูงก็จำเป็นที่จะต้องทำการรักษาตามความรุนแรงของความดันนั้น รศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคความดันโลหิตสูงหรือว่ามีอายุมากขึ้นหรือมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูงและถ้ามีอาการผิดปรกติใด ๆ ดังต่อไปนี้เช่นมีอาการปวดศีรษะขึ้นมาอย่างรุนแรง มีอาการตาพร่ามัวมองไม่เห็น มีอาการปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่งหรือมีอาการมึนชาของร่างกายซีกใดซีกหนึ่ง นึกคำพูดไม่ออก สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นอาการที่บ่งบอกว่าน่าจะมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงเช่น เกิดปัญหาสมองขาดเลือด หรือเลือดออกในเนื้อสมองเนื่องจากเส้นเลือดสมองแตกจากภาวะความดันโลหิตสูง ถ้ามีอาการผิดปรกติที่เป็นขึ้นมาอย่างทันทีก็ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือโทรศัพท์ไปที่เบอร์ 1669 เพื่อใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินหรือจะใช้แอพพลิเคชั่น Fast Track เรียกรถพยาบาล หรือแอพพลิเคชั่น EMS1669 เพื่อเรียกให้รถพยาบาลรีบมารับเพื่อนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที "ผมขอแนะนำเลยนะครับว่าให้รีบติดต่อที่โรงพยาบาลทันทีห้ามสังเกตอาการห้ามรอพบแพทย์ที่คลีนิค ห้ามบีบนวดต่างๆ ห้ามใช้เข็มเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว ห้ามดึงหู ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะหากเราประวิงเวลาจะทำให้เสียเวลาในการไปพบแพทย์ เราจะต้องพบแพทย์ให้เร็วที่สุด ถ้าเราไปเชื่อข้อความที่ส่งตามสื่อออนไลน์ที่บอกให้ใช้เข็มเจาะเลือดที่ปลายนิ้วแล้วนอนสังเกตอาการ จะทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสนาทีทองในการรักษาโรคไป เพราะโรคแทรกซ้อนต่างๆ จากโรคความดันโลหิตสูงนั้นถ้าเรารักษาเร็วก็จะมีโอกาสหายเร็วตามปรกติ แต่ถ้าเกินนาทีทองไปแล้วเช่นถ้าเป็นภาวะสมองขาดเลือดถ้าเกิน 270 นาทีหรือประมาณ 4 ชั่วโมง โอกาสที่เราจะกลับมาเป็นปรกติยากมาก"อายุรแพทย์ประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นกล่าว ด้านนพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกล่าวว่า โรคความดันโลหิตสูง จัดเป็นภัยซ่อนเร้นที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น โรคหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบเฉียบพลันจนส่งให้เป็นอัมพฤษ์อัมพาต โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจล้มเหลว โรคไตวาย ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคความดันจะไม่มีอาการจนกว่าจะเกิดโรคแทรกซ้อนเหล่านี้โดยในปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยฉุกเฉิน เข้ารับการรักษาด้วยโรคดังกล่าวผ่านสายด่วน 1669 มากถึง 9,215 รายดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือเราต้องหมั่นตรวจวัดความดันอยู่สม่ำเสมอเพราะจะทำให้ช่วยวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงระยะเริ่มแรก ซึ่งหากเราสามารถควบคุมความดันโลหิตให้ได้ถึงเกณฑ์ปกติตั้งแต่เริ่มวินิจฉัยจะช่วยให้ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ด้วย สำหรับการวัดระดับความดันโลหิตจะมีการแสดงผลอยู่สองส่วนด้วยกัน คือค่าตัวบนและค่าตัวล่าง โดยความดันค่าตัวบนเราเรียกว่า ความดันช่วงหัวใจบีบตัวและ ส่วนค่าตัวล่างจะเป็นความดันช่วงหัวใจคลายตัวโดยความดันโลหิตที่เรียกว่าเหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปนั้นตัวบนต้องไม่เกิน120 มม.ปรอท และตัวล่างไม่เกิน 80มม.ปรอท เรียกสั้น ๆ ว่า 120/80 และความดันสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดันความดันโลหิตสูง คือ ความดันโลหิตตัวบนมากกว่าหรือเท่ากับ 140 มม.ปรอทและตัวล่างมากกว่าหรือเท่ากับ90 มม.ปรอท ดังนั้นประชาชนควรหมั่นตรวจวัดความดันของตนเองอย่างมสม่ำเสมอและหากพบว่าตนเองมีอาการแขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน มึนงง วิงเวียน ทรงตัวไม่ได้ ใบหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ ซึ่งส่วนมากทุกอาการจะเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างฉับพลัน จะต้องรีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ หรือโทรสายด่วน 1669 เพื่อนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างทันที
แท็ก ข้อมูล   สมอง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ