เปิดงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งที่ 21 สุดยิ่งใหญ่ สวนกระแสเศรษฐกิจ!!! สำนักพิมพ์ 406 แห่งขนกองทัพหนังสือลดราคา 15 - 80 % เอาใจนักอ่าน

ข่าวทั่วไป Monday October 17, 2016 10:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย พร้อมชูไฮไลท์นิทรรศการ "เสนอหน้า" เปิดเผยทุกเบื้องหลังของการทำหนังสือ - ชวนนักอ่านร่วมกิจกรรมอ่าน-เขียนจาก 406 สำนักพิมพ์ รวม 934 บูธ เชิญชมนิทรรศการ 'เสนอหน้า' เปิดเผยทุกเบื้องหลังของการทำหนังสือจาก 6 วิชาชีพ พร้อมทำหนังสือเล่มพิเศษจากฝีมือตัวเอง และการจัดแสดงผลงานปกหนังสือและรูปเล่มดีเด่นที่ผ่านการคัดเลือกจากโครงการ 100 Annual Book and Cover Design 2016 และกิจกรรมน่าสนใจอีกมากมายตลอด 12 วัน เมื่อวันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 21 (Book Expo Thailand 2016)" ในระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 13 - วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559 (12 วัน) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด "เสนอหน้า" นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า "มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 21 (Book Expo Thailand 2016)" ถือเป็นงานแสดงหนังสือระดับชาติที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากบรรดาคนรักการอ่านมาตลอด โดยในปีนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สวนกระแสเศรษฐกิจ โดยมีสำนักพิมพ์ไทยตอบรับเข้าร่วมงาน 406 ราย รวมทั้งสิ้น 934 บูธ บนพื้นที่ประมาณ 21,000 ตารางเมตร โดยปีนี้ได้จัดงานภายใต้แนวคิด "เสนอหน้า" ซึ่งเชื่อมโยงกับนิทรรศการไฮไลท์ของงานคือ "นิทรรศการเสนอหน้า" ซึ่งจะเปิดเผย "เบื้องหลัง" การผลิตหนังสือสู่ "เบื้องหน้า" กว่าจะผ่านออกมาเป็นหนังสือหนึ่งเล่ม ผ่าน 6 สาขาอาชีพสำคัญในการสร้างสรรค์หนังสือ ได้แก่ นักเขียน บรรณาธิการ นักออกแบบกราฟิก นักแปล นักพิสูจน์อักษร และนักออกแบบภาพประกอบ ซึ่งต่างก็เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการผลิตหนังสือ และยังมีส่วนของโครงการ 100 Annual Book and Cover Design ประจำปี พ.ศ. 2559 หรือ 100 ABCD นั้น ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมนักออกแบบเรขศิลป์ไทย เพื่อนำเสนอผลงานหนังสือที่มีการออกแบบที่ดีและโดดเด่นและแสดงศักยภาพวงการหนังสือและนักออกแบบกราฟิกของไทย ซึ่งผลงานทั้ง 99 ชิ้น นอกจากจะนำมาแสดงในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 21 นี้แล้ว ยังนำไปแสดงในงานมหกรรมหนังสือของต่างประเทศอีกด้วย ในส่วนของความคาดหวังนั้น นายจรัญมองว่าแม้ขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะไม่ดีนัก และสื่อออนไลน์ก็มีอิทธิพลต่อการอ่านในรูปแบบใหม่มากขึ้น แต่จากยุทธศาสตร์ประเทศที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ในการสร้างวัฒนธรรมการอ่าน อีกทั้งยังส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ธุรกิจหนังสือเล่มนั้นยังมีทางที่จะเติบโตได้อย่างแน่นอน "เพราะหนังสือคือเพื่อนที่ดีที่สุดและอยู่กับเราในทุกช่วงเวลา งานมหกรรมหนังสือฯในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่จะได้พบปะพูดคุยกับนักเขียน ผู้คนที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมหนังสือ สำนักพิมพ์ต่างๆไปให้กำลังใจพวกเขา ไปอุดหนุนผลงานของพวกเขา ไปช่วยกันยืนยันว่าคนไทยรักการอ่าน และสร้างความมั่นใจให้คนทำหนังสือว่าจงเชื่อมั่นในการสร้างสรรค์หนังสือของเขาต่อไป คาดว่าจำนวนผู้ร่วมงานไม่น่าจะน้อยกว่าเดิมคือประมาณ 2,000,000 คน และกลุ่มนักอ่านน่าจะมีเยาวชนเพิ่มมากขึ้น เป็นเด็กๆรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับความนิยมของหนังสือภาพที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยอดขายอาจไม่น่าดีมากนักตามสภาพเศรษฐกิจและรูปแบบการอ่านที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสภาวะเช่นนี้สำนักพิมพ์จะต้องร่วมมือกันผลิตหนังสือที่มีคุณภาพและซื่อสัตย์ต่อผู้อ่าน เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักอ่านให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ทุกสำนักพิมพ์ยังได้นำหนังสือมาร่วมลดราคาตั้งแต่ 15-80 % พร้อมโปรโมชั่นต่างๆอีกมากมาย" นายจรัญกล่าวสรุป นอกจากนี้ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 21 นี้ "โครงการ 1 คนชวนอ่าน ล้านคนตื่นรู้" ได้คัดเลือกและประกาศเกียรติคุณแก่ นายอนันต์ สุขโฉม ให้เป็นบุคคลตัวอย่างด้านส่งเสริมการอ่าน จากกิจกรรม 'ตลาดความรู้ สู่ชุมชน นวัตกรรมเข่งความรู้' ในพื้นที่ บ้านท่าหมื่นราม พิษณุโลก มาตั้งแต่ปี 2553 โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้มอบรางวัล และปาฐกถาพิเศษเรื่อง "สร้างชาติด้วยหนังสือก่อนที่จะสาย" อีกด้วย ขอส่งเทียบเชิญ หนอนหนังสือและผู้รักการอ่านทุกท่าน มาชมนิทรรศการและเลือกซื้อหนังสือดีคุณภาพคับเล่มในราคาสบายกระเป๋าจากงาน มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 21 เริ่มวันพฤหัสบดีที่ 13 ถึงวันจันทร์ที่24 ตุลาคม พ.ศ. 2559 (12 วัน) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ