แจกแจงให้ชัด ที่อยู่อาศัยใน กทม. ยังเหลือถึง 171,905 หน่วย

ข่าวอสังหา Monday February 8, 2016 10:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ข่าวที่ว่า "ที่อยู่อาศัยเหลือขาย กทม. 5.4 หมื่นหน่วย รวมมูลค่า 2.3 แสนล้าน" นั้น ไม่เป็นความจริง อาจทำให้นักลงทุน ผู้ซื้อบ้าน นักพัฒนาที่ดิน นำไปวางแผนการลงทุนผิดพลาดเสียหายร้ายแรง ความจริงยังเหลืออยู่ถึง 171,905 หน่วย รวมมูลค่าประมาณ 500,000 ล้านบาท ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยว่า ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีจำนวนหน่วยขายรอขายอยู่ถึง 171,905 หน่วย โดยกลุ่มใหญ่ที่สุดคือห้องชุด จำนวน 67,349 หน่วย หรือ 39% ของทั้งหมด รองลงมาคือทาวน์เฮาส์ มี 48,999 หน่วย หรือ 29% ของทั้งหมด และบ้านเดี่ยวจำนวน 39,826 หน่วย หรือ 23% ของทั้งหมด นอกนั้นเป็นบ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และที่ดินจัดสรรอย่างละ 6% 2% และ 1% ตามลำดับ หากพิจารณาจากระดับราคา สินค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด มีราคา 1-2 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้าราคาค่อนข้างถูก ถึง 45,043 หน่วย หรือ 26% ของทั้งหมด รองลงมาเป็นระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 43,928 หน่วย (26%) และระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 42,099 หน่วย (24%) อาจกล่าวได้ว่าจำนวนที่อยู่อาศัยถึง 56% มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และหากพิจารณาถึงสินค้าที่มีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท มีรวมกันถึง 82% ของสินค้าทั้งหมด แต่สินค้าราคาแพงกว่านี้ แม้มีจำนวนน้อย แต่มูลค่าค่อนข้างสูง เมื่อแยกแยะตามประเภทที่อยู่อาศัยและระดับราคาจะพบว่า สินค้าที่รอขายอยู่ในขณะนี้ สามารถแยกแยะได้ดังนี้: อันดับที่ 1 กลุ่มใหญ่ที่สุดก็คือห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 24,534 หน่วย หรือ 14% ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด อันดับที่ 2 คือ ทาวน์เฮาส์ ราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 19,208 หน่วย หรือ 11% ของทั้งหมด อันดับที่ 3 คือ ทาวน์เฮาส์ ราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 18,290 หน่วย หรือ 11% ของทั้งหมดเช่นกัน อันดับที่ 4 คือ บ้านเดี่ยว ราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 17,950 หน่วย หรือ 10% ของทั้งหมด อาจกล่าวได้ว่า บ้านเดี่ยวกลุ่มที่เหลือส่วนมากมีราคาประมาณ 3-10 ล้านบาท บ้านแฝดมักเหลือราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์มักเหลือราคา 1-3 ล้าน ตึกแถวมักเหลือราคา 3-10 ล้านบาท ห้องชุดมักเหลือราคา 1-3 ล้านบาท ส่วนที่ดินจัดสรร มักเหลือในราคา 2-3 ล้านบาท ถึงแม้หน่วยขายเหลือจะมีถึง 171,905 หน่วย แต่คาดว่าจะขายหมดได้ในเวลาประมาณ 25 เดือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขายค่อนข้าง "อืด" แต่ทั้งนี้ห้องชุดจะขายหมดในเวลาเร็วกว่าคือ 17 เดือน ทาวน์เฮาส์ใช้เวลา 34 เดือน ส่วนบ้านเดี่ยวอาจต้องใช้เวลาถึง 56 เดือนเลย ทั้งนี้พิจารณาบนสมมติฐานที่ว่าหากไม่มีโครงการเกิดใหม่เลย แต่หากมีสินค้าเกิดใหม่อีก และสถานการณ์ตลาดยังไม่กระเตื้อง ภาวะตลาดก็จะยัง "อืด" ต่อไป การลงทุนจึงต้องเลือกในทำเล ประเภทที่อยู่อาศัย และ ณ ระดับราคา ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ ดร.โสภณ ขอย้ำขอความเมตตาสื่อโปรดเผยแพร่ข้อมูลที่แท้จริง อย่าได้เผยแพร่ข้อมูลด้านเดียว จะสร้างปัญหาให้กับสังคมและประชาชนโดยรวมได้ อ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 53/2559: วันจันทร์ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2559 ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ