กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 08 พฤศจิกายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,280.88-1,285.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ16 อยู่ที่ 21,410 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,450 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.35 น.ของวันที่ 08/11/16)
แนวโน้มวันที่ 09 พฤศจิกายน 2559
การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ อาจสร้างความผันผวนและปั่นป่วนต่อตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารขนาดใหญ่ระดับโลก อาทิ มอร์แกน สแตนเลย์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ปกำลังเตรียมตัวรับภาวะปั่นป่วนที่อาจจะเกิดขึ้น ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะเริ่มทยอยประกาศออกมาในช่วงสายวันพุธนี้ตามเวลาประเทศไทย นักลงทุนจับตาการนับคะแนนผลการเลือกตั้งในรัฐฟลอริดา, มิชิแกน, นอร์ธแคโรไลน่า และโอไฮโอ ซึ่งสูสีกันเกินกว่าที่จะคาดเดาได้ เพื่อประเมินโอกาสที่นายทรัมป์จะชนะ เนื่องจากความพ่ายแพ้ใน 2 รัฐจาก 3 รัฐซึ่งประกอบด้วยฟลอริดา, มิชิแกน และ เพนซิลวาเนียของนายทรัมป์ จะส่งผลให้นางคลินตันชนะเลือกตั้งค่อนข้างแน่นอน อย่างไรก็ตามราคาทองคำในวันอังคารนี้แทบไม่เปลี่ยนแปลงท่ามกลางภาวะซื้อที่เบาบางลง เพราะนักลงทุนเลือกที่จะปลีกตัวอยู่นอกตลาดก่อนทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนักลงทุนไม่ต้องการถือสถานะจำนวนมาก หลังจากเคยได้บทเรียนจากการตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ หรือ Brexit อย่างไม่คาดคิดในเดือนมิ.ย. แม้ว่าผลสำรวจ Reuters/Ipsos States of the Nation ฉบับสุดท้ายเผยว่า ขณะที่ชาวอเมริกันกำลังจะออกไปเลือกตั้งในอีกไม่กี่ชั่วโมงนั้น นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมีโอกาสราว 90% ที่จะชนะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่คะแนนนิยมของผู้สมัครทั้งสองรายในรัฐที่สำคัญหลายรัฐก็มีความสูสีกันเกินกว่าที่จะคาดเดาผลการเลือกตั้ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยากต่อประเมินสถานการณ์ ในระยะสั้นก่อนทราบผลการเลือกตั้งอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา โดยราคาทองคำน่าจะมีการย่อตัวลงในระยะสั้นไม่มากนักแต่ความผันผวนอาจเพิ่มสูงขึ้นในช่วงใกล้ทราบผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แนะนำนักลงทุนซื้อขายในระยะสั้น ร่วมทั้งควรประเมินความเสี่ยงที่นักลงทุนสามารถแบกรับได้
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีโอกาสและแกว่งตัวในระดับสูงจากปัจจัยพื้นฐาน เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,275-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,300-1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,253 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,275 (21,060บาท) 1,266 (20,900บาท) 1,253 (20,700บาท)
แนวต้าน 1,300 (21,480บาท) 1,313 (21,700บาท) 1,322 (21,840บาท)
GOLD FUTURES (GFZ16)
แนวรับ 1,275 (21,250บาท) 1,266 (21,100บาท) 1,253 (20,890บาท)
แนวต้าน 1,300 (21,670บาท) 1,313 (21,890บาท) 1,322 (22,030บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999