ปภ.แนะเรียนรู้วิธีป้องกัน - แก้ไขเหตุฉุกเฉินจากไฟไหม้รถยนต์

ข่าวทั่วไป Friday January 6, 2017 11:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะวิธีป้องกันและแก้ไขเหตุฉุกเฉินจากไฟไหม้รถโดยหมั่นตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน สังเกตความผิดปกติของเครื่องยนต์ หากมีสิ่งผิดปกติให้รีบนำรถเข้าศูนย์บริการไม่ปรับแต่งเครื่องยนต์ เมื่อเกิดไฟไหม้รถ ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ตื่นตระหนก นำรถจอดข้างทาง ปิดสวิตช์ ดับเครื่องยนต์ทันทีหากเพลิงไหม้เพียงเล็กน้อย ให้ใช้ถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิงให้ดับสนิท จากนั้นให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันมิให้เปลวไฟปะทุ กรณีเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ให้รีบออกห่างจากรถที่เกิดไฟไหม้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันรถระเบิด พร้อมโทรศัพท์แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการควบคุมสถานการณ์ในทันที นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ไฟไหม้รถเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่รถที่มักเกิดไฟไหม้ ได้แก่ รถที่ติดตั้งระบบก๊าซ LPG หรือ NGV ที่ไม่ได้มาตรฐานและขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี รถเก่าที่มีอายุการใช้งานมานาน รถที่ผ่านการปรับแต่งสภาพและใช้อะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพหรือต่ำกว่ามาตรฐาน ขณะที่รถใหม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ หากไม่ดูแลรักษาสภาพเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรรู้เกี่ยวกับการป้องกันและการปฏิบัติตนกรณีเกิดไฟไหม้รถ ดังนี้ วิธีป้องกัน ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน เติมน้ำหม้อน้ำในระดับที่กำหนด ท่อน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีรอยรั่ว ไม่มีเศษวัสดุติดในหม้อน้ำและท่อยาง สายพานมีความตึงในค่าที่กำหนด โดยเฉพาะกระโปรงหน้ารถ หากมีเขม่าดำเกาะ แสดงว่า เครื่องยนต์ทำงานไม่สมบูรณ์ รวมถึงตรวจสอบใต้ท้องรถ หากมีรอยน้ำมันหยดควรรีบแก้ไขโดยด่วน หมั่นสังเกตการทำงานของเครื่องยนต์และระบบก๊าซ หากตรวจพบสายไฟขาด มีรอยน้ำมันรั่วซึม ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงหรือก๊าซลดลงอย่างรวดเร็ว เครื่องยนต์ร้อนจัด ได้กลิ่นเหม็นไหม้ของยางหรือพลาสติก กลิ่นก๊าซรั่ว เครื่องยนต์มีเสียงดังผิดปกติให้รีบนำรถไปตรวจสอบและซ่อมแซมทันที รวมทั้งจัดเตรียมถังดับเพลิงเคมีขนาดเล็กไว้ด้านข้างคนขับ เพื่อสามารถหยิบมาใช้ได้ทันทีเมื่อไฟไหม้รถ กรณีเกิดไฟไหม้รถ ควรตั้งสติ และรีบนำรถจอดริมข้างทางในทันที หากเป็นรถติดตั้งระบบก๊าซ ให้ปิดสวิตซ์ เพื่อตัดการทำงานของระบบก๊าซ พร้อมดับเครื่องยนต์ หากไฟไหม้รถเพียงเล็กน้อย ให้ควบคุมเพลิงด้วยตนเองในเบื้องต้น โดยใช้ถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิงให้ดับสนิท หากมีเปลวไฟออกมาจากฝากระโปรงรถ ให้ปลดสลักฝากระโปรง และฉีดพ่นผ่านทางช่องฝากระโปรงที่แง้มไว้ ห้ามเปิดฝากระโปรงในทันที เพราะจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น เมื่อไฟเริ่มสงบ จึงค่อยๆ เปิดฝากระโปรง โดยใช้ผ้ารองหรือสวมถุงมือ เนื่องจากฝากระโปรงมีความร้อนสูง หากเปิดได้แล้ว ควรฉีดพ่นให้ทั่วห้องเครื่องจนมั่นใจว่าไฟดับสนิท จากนั้นให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกเพื่อป้องกันมิให้เปลวไฟปะทุ กรณีเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ให้รีบออกห่างจากรถที่เกิดไฟไหม้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันรถระเบิด จากนั้นให้รีบโทรศัพท์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 สายด่วนนิรภัย 1784 ที่สำคัญ ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน สังเกตความผิดปกติของรถ โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นเก่าที่ผ่านการปรับแต่งสภาพและใช้อะไหล่ที่ไม่มีคุณภาพหรือต่ำกว่ามาตรฐาน รวมถึงไม่ควรซื้อรถมือสองที่ไม่ทราบประวัติการขับขี่มาใช้งาน พร้อมเรียนรู้วิธีแก้ไขเหตุฉุกเฉิน ที่สำคัญ ควรขับรถในอัตราความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเกิดอุบัติเหตุจะช่วยลดแรงปะทะที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้รถได้ 0-2243-0674 0-2243-2200www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ