“หมอวิชัย” ดึงทุนใหม่-แก้หนี้ เดินหน้าแผน สมาร์ท IFEC

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 8, 2017 16:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หมอวิชัยเปิดตัวมหามิตร ดึง"แมคคิวรี่" กองทุนยักษ์ใหญ่จากออสเตรเลียเข้าร่วม ขณะที่กลุ่ม เพลินจิต แคปปิตอล ตอบรับบริหารจัดการหนี้ทั้งหมด ด้าน โกล์ดวิน ผู้ผลิตกังหันลมไฟฟ้าเบอร์ 1ของโลก ตกลงร่วมทุน 30 เปอร์เซ็นต์ในโครงการลม นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า ล่าสุดตนเองได้พูดคุยกับกองทุน แมคคิวรี่ (Macquarie) กองทุนขนาดใหญ่จากประเทศออสเตรเลียเพื่อให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับตนเองในการพลิกฟื้น IFEC ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ซึ่งแมคคิวรี่ ถือเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมี กลุ่มเพลินจิต แคปปิตอล บริษัทที่ได้ชื่อว่ามีประสบการณ์ชั้นเซียนในการบริหารจัดการหนี้ ก็ตกลงเข้ามาพันธมิตรเช่นกัน โดยได้ส่งตัวแทน คือนายสายันห์ สุพร เข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย ซึ่งการเป็นพันธมิตรครั้งนี้ยังหมายถึงอนาคตกลุ่มเพลินจิต จะใช้ประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ คัดสรรพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับ IFEC อีกด้วย ขณะเดียวกันยังได้รับข่าวดีจากบริษัท โกล์ดวิน เข้าซื้อหุ้นในบริษัทลูกของ IFEC ที่ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนลม ในอัตรา 30 เปอร์เซ็นต์ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทโกล์ดวิน เป็นธุรกิจผลิตกังหันลมที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 1 ของโลก "ตอนนี้พันธมิตรของผมในนาม IFEC ถือว่าแข็งแกร่งมาก มีทั้งด้านการเงิน ด้านการบริหารจัดการหนี้ และด้านเทคโนโลยี ผมจึงมั่นใจที่จะเปิดแผน IFEC Smart Forward หมายถึงการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างสง่างาม" สำหรับแผนการบริหารจัดการหนี้ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้นราว 6,500 ล้านบาท ตนเองยังยืนยันที่จะขายโรงแรมดาราเทวี ซึ่งขณะนี้มีผู้ตกลงซื้อแน่นอนแล้ว มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,500 – 5,000 ล้านบาท รวมกับเงินที่ได้จากการขายหุ้นในกิจการกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้กับโกล์ดวิน อีกกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับหนี้สินของบริษัทจะหมดลงไป นายแพทย์วิชัย ยังกล่าวอีกว่า หลังจากบริษัทแก้ปัญหาหนี้สินแล้ว ยังมีโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของพันธมิตร เช่น โครงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมที่ประเทศบังคลาเทศ และโครงการอื่นๆในประเทศแถบอาเซียนที่จะตามมาอีก โดยเชื่อว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้รวมแล้ว 500-600 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นในปีต่อๆตามโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นอนึ่งปัจจุบันบริษัทมีโครงสร้างรายได้ จากโครงการโซล่าเซลล์ ปีละ 360 ล้านบาท โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมปีละ120 ล้านบาท โครงการผลิตไฟฟ้าชีวมวลปีละ 24 ล้านบาทโดยรายได้บวกลบ 10-20 เปอร์เซ็นต์ตามสภาพแวดล้อมแสง-ลม และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า "ผมมั่นใจในแผน IFEC Smart Forward ว่าจะนำพาบริษัทเติบโตอย่างยั้งยืน แต่ต้องทำบริษัทให้มีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลเสียก่อน ซึ่งขณะนี้คดีต่างๆที่บริษัทยื่นสอบและฟ้องศาลไปมีความคืบหน้าพอสมควร ผมยืนยันว่าการที่บริษัทจะเติบโตและเข้มแข็งได้ ผู้บริหารจะต้องมีความเข้าใจในธุรกิจพลังงานทดแทน และต้องเป็นบริษัทที่มีธรรมภิบาลเท่านั้น" นายแพทย์วิชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ