กรมการค้าภายใน ได้รับจัดสรรงบ มพช. เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำดัชนีเศรษฐกิจใหม่

ข่าวทั่วไป Tuesday April 24, 2001 14:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--มพช.
กระทรวงพาณิชย์ ใช้เงินจากมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.) จัดทำฐานข้อมูลดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจใหม่ให้ละเอียด ลึกซึ้ง แบ่งเป็นหมวดหมู่ตามกิจกรรมของเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการประมวลภาพทางเศรษฐกิจ สภาพัฒน์เห็นมีประโยชน์เสนอให้สำนักงบประมาณเพิ่มวงเงิน เพื่อจะได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นางสาวนทีทิพย์ ทองเขาอ่อน ผู้อำนวยการสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทางกรมการค้าภายในได้รับจัดสรรงบประมาณมาตรการเสริมการพัฒนาชนบทและชุมชน (มพช.) จำนวน 1.47 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำดัชนีเศรษฐกิจใหม่ คือดัชนีราคานำเข้า-ส่งออก ของประเทศไทย และดัชนีราคาผู้บริโภคโดยจำแนกตามระบบ COICOP และปรับปรุงตัวอย่างสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทนำเข้า โดยมีการจ้างงานจำนวน 14 คน เพื่อการจัดเก็บและ ติดตามข้อมูล เพื่อนำมาจัดทำฐานข้อมูลเรื่องการจัดทำดัชนีเศรษฐกิจใหม่ให้มีความละเอียด โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามกิจกรรมของเศรษฐกิจ (ISIC) ตามมาตรฐานสากล
หลักเกณฑ์การจัดเก็บข้อมูลโดยใช้การแบ่งตามกิจกรรมเศรษฐกิจนี้ จะได้ข้อมูลที่ละเอียด ลึกซึ้งโดยแบ่งการบริการออกจากสินค้าไม่ปะปนกันเหมือนครั้งก่อน แต่ต้องใช้กำลังคนในการจัดเก็บข้อมูล โดยขณะนี้ได้มีการจัดเก็บข้อมูลจากธุรกิจการส่งออกแล้ว และการจัดเก็บข้อมูลนี้ต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และต้องมีการสรุปผล และตรวจสอบทุกเดือน
"หลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เห็นด้วยและสนับสนุนเต็มที่ เพราะต้องการให้การให้การจัดเก็บระบบงานการคำนวณดัชนีราคา ราคานำเข้า-ส่งออกของประเทศไทย จำแนกกลุ่มสินค้าเพิ่มเติมตามระบบ HS,ISIC, และ COICOP จากเดิมได้จำแนกกลุ่มสินค้าตามโครงสร้างลักษณะเศรษฐกิจของไทยและเป้าหมายการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งจัดทำระบบเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อใช้ปรับตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ และได้เสนอสำนักงบประมาณเพิ่มวงเงินสนับสนุนเป็นประมาณ 4 ล้านบาท เพื่อให้โครงการนี้สำเร็จโดยเร็วขึ้น "นางสาวนทีทิพย์กล่าว
นางสาวนทีทิพย์กล่าวอีกว่า การจัดทำฐานข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับธนาคารแห่งประเทศไทย หน่วยงานราชการและภาคเอกชนอื่นๆ อีกมาก ซึ่งหากโครงการนี้สำเร็จได้มีการประมวลผลแล้วก็สามารถนำเข้าเว็ปไซต์ของกรมการค้าภายในเผยแพร่สู่สาธารณชนต่อไป
อย่างไรก็ตามงบประมาณของมาตรการดังกล่าวมีระยะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น หากต้องดำเนินการต่อทางกรมฯ ก้จะใช้งบประมาณด้านอื่นสนับสนุนต่อไป
ทางด้านนายพิศาล มโนลีหกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า หากโครงการนี้สำเร็จและได้ใช้จริง ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับงานวิจัยของสำนักวิจัยต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เนื่องจากมีควมมละเอียด ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งแต่เดิมนั้น การบริการยังปะปนกันอยู่กับสินค้า ไม่แยกออกมา ซึ่งจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เป็นยุคของการแข่งขัน ดังนั้นการวางแผน การประมวลผล การวิเคราะห์ข้อมูลจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
ขอขอบพระคุณในการเผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ มพช. โทร. 279-8000, 279-7937, 616-2270-1โทรสาร. 616-2272--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ