กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--บลจ.บัวหลวง
ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญที่กองทุนบัวหลวงได้กลายเป็นบริษัทจัดการกองทุนรวมที่ผงาดขึ้นมาด้วยผลประกอบการที่โดดเด่นอยู่ในชั้นแนวหน้า จนล่าสุดกวาดเรียบ 4 รางวัลกองทุนหุ้นจาก Morningstar Thailand Fund Awards 2017 ที่สำคัญที่สุดคือ กองทุนบัวหลวงได้รับรางวัล Best Equity House หรือบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทการลงทุนหุ้นภายในประเทศ ซึ่งได้รับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
แต่ความสำเร็จของกองทุนบัวหลวงนี้ โดยภาพรวมแล้วเกิดจากการบริหารกองทุนที่สุขุมรอบคอบ มีความสม่ำเสมอ และสามารถเอาชนะค่าเฉลี่ย (benchmark) ของหุ้นในตลาดที่มีความผันผวนสูงอยู่ตลอดเวลาได้
"ปัจจัยหลักคือเรื่องการเลือกหุ้น (stock pick) เวลาเราเลือกที่จะลงทุนในหุ้นใด เราจะมีความเชื่อมั่นสูง เพราะว่าทีมงานนักวิเคราะห์ของเราได้ลงพื้นที่ พูดคุยกับฝ่ายบริหารของบริษัท และเห็นโอกาสว่าหุ้นมีราคาสมเหตุสมผล มีโอกาสเติบโต และมีราคาราคาที่ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่เราเข้าไปลงทุน" นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) กล่าว
"เวลาลงทุน เราจะถือยาว ต้องยอมรับว่า เราอึดกว่าชาวบ้าน หรือนักลงทุนอื่นๆ เราจะไม่เอนเอียงไปตามกระแส หรือสถานการณ์ชั่วครั้งชั่วคราวทั้งในประเทศและต่างประเทศ การซื้อการขายหุ้นของเราจะน้อยกว่าอุตสาหกรรมทำให้ประหยัดค่าคอมมิสชั่นหรือต้นทุนของการบริหารพอร์ตต่ำ ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุนของเรา"
สไตล์การบริหารของกองทุนบัวหลวงอาจจะไม่เหมือนคนอื่น ตรงที่กองทุนบัวหลวงจะไม่พยายามเอาชนะตลาด แต่จะเลือกหุ้นที่ดี หรือ winner ในแต่ละอุตสาหกรรมเข้ามาในพอร์ต โดยดูปัจจัยต่างๆ ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงของธุรกิจ หรืออุตสาหกรรม รวมทั้งเรื่องของโอกาสของการเจริญเติบโตในอนาคตและความสามารถของผู้บริหาร จังหวะในการเข้าออกจึงเป็นปัจจัยรอง
"ตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งกองทุนบัวหลวง เราถือคติว่าหุ้นที่ดี การเทรดที่ดี เท่ากับผลประกอบการที่ดี (good stock + good trade = good performance) หุ้นที่ดีหมายความว่า เราต้องมีทักษะในการเลือก การเทรดที่ดีคือ น้ำหนักที่เราลงทุนลงไป ซึ่งสะท้อนว่าเราเชื่อมั่นในอนาคตของหุ้นตัวนั้น แต่เราต้องรู้จักถอยด้วยถ้าเห็นว่าอุตสาหกรรมนั้นไม่ได้อยู่ในวงจรขาขึ้น สมการสองอย่างนี้รวมกันด้วยจังหวะที่ดีจะกลายเป็นผลประกอบการที่ดี โดยที่เราตั้งมั่นเป็นนักลงทุนระยะยาว (value investor)" นายพีรพงศ์ กล่าว
งานมอบรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมของมอร์นิ่งสตาร์ในปีนี้ ถือเป็นอีกปีที่ยอดเยี่ยมของกองทุนบัวหลวง ที่ได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่อง รางวัลของมอร์นิ่งสตาร์ไม่ใช่รางวัลที่วัดเฉพาะผลตอบแทนเพียงอย่างเดียวในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ให้ความสำคัญกับการลงทุนระยะยาวและความผันผวนระหว่างการลงทุนเป็นเวลา 5 ปี เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
รางวัลที่กองทุนบัวหลวง ได้รับในครั้งนี้ ได้แก่ รางวัลกองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยม ประเภทการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน
ประเภทกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ยอดเยี่ยม ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว
ประเภทกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ยอดเยี่ยม ประเภทตราสารทุน ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ทั้ง 3 กองทุน เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี มุ่งหวังผลตอบแทนจากการลงทุนระยาว
ส่วนรางวัลใหญ่ นั่นคือ รางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทการลงทุนหุ้นภายในประเทศซึ่งได้รับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นบริษัทจัดการกองทุนแห่งเดียวของไทยที่ได้รับรางวัลนี้จากมอร์นิ่งสตาร์
นอกจากกองทุนที่ได้รับรางวัลดังกล่าวแล้ว กองทุนบัวแก้ว และ กองทุนบัวแก้วปันผล ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล รางวัลกองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยม ประเภทการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ และกองทุนบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ( RMF)ประเภทตราสารทุน
ผู้ที่สนใจกองทุนของกองทุนบัวหลวง สามารถสอบถามและลงทุนได้ที่บริษัทจัดการ โทร. 0-26746488 กด8 หรือตัวแทนขาย ได้แก่ สาขาธนาคารกรุงเทพ ตัวแทนขายหน่วยลงทุนของกรุงเทพประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง และ บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) และ บลจ.บัวหลวง
อนึ่ง สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน เป็นกองทุนหุ้นที่มีนโยบายการจ่ายปันผล และสามารถจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันกองทุนบัวหลวงเป็นตัวแทนขายโดยตรง และได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง มีค่าใช้จ่ายของกองทุนที่ต่ำ ผู้สนใจสามารถสอบถามได้โดยตรงที่ กองทุนบัวหลวง 0-2674-6488 กด 8