การนำ Hitachi Content Platform มาช่วยองค์กรแปรรูปสู่ระบบดิจิทัล

ข่าวเทคโนโลยี Thursday March 30, 2017 11:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--คอร์ แอนด์ พีค เมื่อถึงเวลาที่องค์กรต้องแปรรูปกระบวนการทำงานให้เป็นระบบดิจิทัล วัฒนธรรมองค์กรถือเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าเทคโนโลยี โดยที่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงนั้นจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับบุคคลากรและกระบวนการทำงาน การแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนจากนโยบายสั่งการขององค์กร และขั้นตอนการแปรรูปนั้นไม่สามารถบังคับให้ฝ่ายพัฒนาแอปพลิเคชั่นและฝ่ายปฏิบัติการด้านไอทีทำงานร่วมกันได้ แต่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรและนำโซลูชั่นที่เหมาะสมมาใช้จะช่วยให้เกิดวัฒนธรรม DevOps (Development Operation) ที่เป็นการรวมกันของเทคโนโลยีที่เหมาะสม และทัศนคติของกลุ่มคนทำงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยทำให้การพัฒนาและส่งมอบแอปพลิเคชั่นธุรกิจมีวิวัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อสนับสนุนระบบไอทีในรูปแบบอัตโนมัติเพื่อช่วยธุรกิจได้ แนวทางที่จะผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่การแปรรูปเป็นระบบดิจิทัลนั้น พื้นฐานสำคัญจะอยู่ในการสร้างแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ระบบไอทีสามารถรองรับระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยผลักดันให้เกิดมูลค่าสูงสุดทางธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่งการปรับระบบไอทีให้ทันสมัยเพื่อสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจนั้นมักจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารจัดการข้อมูลขององค์กร โดยเทคโนโลยีที่นำมาใช้จะต้องตอบสนองความต้องการในด้านการบริหารจัดการข้อมูลเหล่านี้ องค์กรขนาดใหญ่มีความชัดเจนในการลำดับความสำคัญของไอทีเชิงกลยุทธ์ และสิ่งที่องค์กรต่าง ๆ ต้องการ คือ · ต้องสามารถแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าในระยะยาวเพื่อการสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจ · มีแผนการดำเนินงานเพื่อนำการลงทุนด้านไอทีที่มีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ พร้อมความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงทรัพยากร เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญของธุรกิจ · ระบบที่ใช้งานง่าย · สามารถควบคุมข้อมูลเพื่อความปลอดภัยและการปฏิบัติการกฎระเบียบ · สามารถใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์สาธารณะ ส่วนตัว และไฮบริดได้ Hitachi Content Platform (HCP) เป็นโซลูชั่นแพลตฟอร์มและซอฟแวร์บริหารจัดการข้อมูล ไฟล์ และเนื้อหา (Files and Contents) แบบ Object-Based Cloud Storage และเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานสำหรับการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการสนับสนุนการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลและเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลักดันให้เกิดระบบไอทีแบบอัตโนมัติ ด้วยลูกค้ากว่า 1,500 คนทั่วโลก ซึ่ง HCP ถือเป็นหนึ่งในโซลูชั่นของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยลูกค้าองค์กรได้นำ HCP ไปใช้งานในลักษณะที่แตกต่างกันตามแต่ละธุรกิจและความต้องการขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นระบบพื้นฐานสำหรับบริการคลาวด์ การทำงานในลักษณะเคลื่อนที่ของพนักงาน การรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติตามกฎระเบียบ หรือการเป็นระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง โดยพื้นฐานแล้ว ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ Cloud Storage จะต้องมีความสามารถในการดำเนินการใน 9 สิ่ง เพื่อช่วยในการแปรรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัล ดังนี้ 1. ต้องสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลง่ายและมีฟังก์ชั่นรองรับการทำงานประจำวันในรูปแบบอัตโนมัติ 2. ต้องสนับสนุนแอปพลิเคชั่นใหม่และที่มีอยู่เดิมตลอดช่วงระยะเวลาของกระบวนการแปรรูป 3. ต้องสามารถจัดหาและเตรียมการ provisioning ได้ง่าย 4. ต้องมีประสิทธิภาพคุ้มค่าคุ้มราคา 5. ต้องปกป้องการลงทุนด้านไอทีที่มีอยู่เดิมตามขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป 6. ต้องสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายผ่านชุดโปรโตคอลและ API ที่แพร่หลายมากที่สุด 7. ต้องแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบได้อย่างดีเยี่ยม 8. ต้องยืดหยุ่นในการปรับขยายขนาดได้อย่างอิสระเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหรือความจุ (หรือทั้งสองอย่าง) 9. ต้องสามารถทำงานร่วมกับบริการคลาวด์สาธารณะที่มีอยู่มากมายได้อย่างง่ายดาย การศึกษาล่าสุดจากไอดีซีแสดงให้เห็นว่า Hitachi Content Platform สามารถตอบสนองความต้องการด้านการแปรรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัลเหล่านี้ทั้งในด้านแอปพลิเคชั่นและเวิร์กโหลดของยุคของแพลทฟอร์มที่สาม (The 3rd Platform) ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์มือถือ แอพพลิเคชั่นต่างๆ คลาวคอมพิวติ้ง การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และโซเชียลมีเดีย รวมถึง IoT ซึ่งระบุว่า "มีซัพพลายเออร์ระบบจัดเก็บข้อมูลเพียงไม่กี่รายที่มีโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพในการผสานรวมข้อกำหนดของแอปพลิเชั่นใหม่และที่มีอยู่เดิมได้ โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูบแบบออบเจ็กต์ Hitachi Content Platform (HCP) เมื่อต่อยอดเข้ากับHitachi Data Ingestor (HDI) เพื่อจัดเก็บดูแลข้อมูลตามสาขาต่างๆ และ Hitachi Content Platform Anywhere (HCP Anywhere) ไปยังอุปกรณ์เคลื่อนที่ของพนักงาน ก็จะได้เป็นโซลูชั่นประสิทธิภาพสูงที่สามารถตอบสนองการเข้ามาของแพลตฟอร์มยุคของแพลทฟอร์มที่สาม ทั้งยังสอดคล้องตามข้อกำหนดของแอปพลิเคชั่นที่มีอยู่เดิมด้วย" การสนับสนุนการแปรรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัล จุดเด่นที่แท้จริงของ HCP คือความสามารถในการจัดการข้อมูลได้ทุกประเภทและแอปพลิเคชั่นเกือบทั้งหมด รวมทั้งเป็นสินทรัพย์ที่สนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรม DevOps ด้วยการทำให้งานไอทีประจำวันกลายเป็นระบบอัตโนมัติได้อย่างแท้จริง ระบบนี้มีความน่าเชื่อถือสูง สามารถปรับขยายได้อย่างมหาศาล และช่วยให้การเคลื่อนย้ายข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงสามารถจัดเก็บข้อมูลผ่านบริการคลาวด์แบบส่วนตัวและสาธารณะ รองรับการเข้ารหัส การควบคุมสิทธิ์ในการเข้าถึง มีการจัดเตรียมระบบที่ง่ายดาย สามารถตรวจสอบย้อนกลับการคิดค่าใช้จ่ายจากผู้ใช้งานจริง และอื่นๆ การปรับขยายขนาดได้อย่างมหาศาลและรองรับระบบคลาวด์สาธารณะอย่างครอบคลุม หัวใจสำคัญของ HCP คือเป็นโซลูชั่นที่สามารถปรับขยายขนาดได้อย่างมหาศาล (มากถึง 497 เพตาไบต์ต่อคลัสเตอร์) สำหรับการจัดเก็บข้อมูลจากหลายแอปพลิเคชั่นและหลายแหล่งข้อมูล ซึ่งต่างจากโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออบเจ็กต์อื่นๆ เนื่องจากระบบนี้สามารถปรับขยายขนาดได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นด้านประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือความจุข้อมูล และเมื่อใช้ร่วมกับโซลูชั่นEnterprise File Sync-n-Share (HCP Anywhere) และเกตเวย์คลาวด์ (HDI) กลุ่มผลิตภัณฑ์ HCP ถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในการสนับสนุนให้เกิดการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลอย่างแท้จริง ระบบการทำงานอัตโนมัติตามนโยบายช่วยเอื้อประโยชน์ในด้านค่าใช้จ่ายอย่างมากและช่วยให้การย้ายข้อมูลไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรที่มีราคาถูกกว่าหรือการย้ายไปยังผู้ให้บริการระบบคลาวด์สาธารณะหรือทั้งสองรูปแบบเป็นเรื่องง่าย สำหรับบริการคลาวด์สาธารณะ ซึ่งเชื่อมต่อได้ทั้ง Microsoft Windows® Azure, Amazon S3, Verizon Cloud , Google Cloud Platform รวมทั้ง ระบบบริการ cloud-based archiving ซึ่งเป็นบริการคลาวด์สาธารณะของ HDSเอง (ปัจจุบันบริการในสหรัฐอเมริกา) หรือ สามารถเชื่อมไปยังบริการคลาวด์สาธารณะของผู้ให้บริการในประเทศได้อีกด้วย ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ HCP ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการจัดเก็บค้นหา (archiving) และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ด้วยคุณลักษณะที่มาพร้อมกับระบบ WORM (Write-Once, Read-Many) แบบในตัว การลบอย่างปลอดภัย การจัดเก็บข้อมูลตามกฎหมาย การตรวสอบ การทำเวอร์ชันของเอกสาร และอื่นๆ ทำให้ HCP สามารถตอบสนองความต้องการด้านการกำกับดูแลและเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐาน SEC 17a-4(f) และ Dodd-Frank ได้อย่างชัดเจน การสนับสนุนโปรโตคอล HCP พร้อมรองรับการทำงานร่วมกันได้อย่างครอบคลุมผ่านทางการสนับสนุน API ทั่วไปสำหรับ HTTP/REST, HCP RESTful, CIFS, NFS, SMTP, WebDAV, S3, OpenStack Swift และ API สำหรับสืบค้นระบบบรรณารักษ์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน(Metadata) แบบกำหนดเองในรูปแบบ REST การใช้ประโยชน์จาก Metadata HCP สามารถใช้ศักยภาพสูงสุดจาก Metadata ที่องค์กรมีอยู่ ให้สามารถค้นหา จัดเก็บ เข้าถึง และย้ายข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาด ทั้งนี้ Metadata แบบกำหนดเองสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายส่วน เพื่อให้ผู้ใช้จำนวนมากและหลายแอปพลิเคชั่นต่างๆ สามารถทำงานกับออบเจ็กต์เดียวกันและไม่ส่งผลกับ Metadata ของกันและกัน ไม่ต้องยกเครื่องเทคโนโลยีใหม่หมดและไม่ต้องหยุดการทำงานของระบบอีก ฟังก์ชั่น Autonomic Technology Refresh (ATR) ใน HCP เป็นคุณลักษณะที่ช่วยให้การอัพเกรดเซิร์ฟเวอร์ HCP และ/หรือระบบจัดเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่นและทำได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องหยุดการทำงานของระบบ โดย ATR ถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์ของ HCP เนื่องจากช่วยลดผลกระทบของกลุ่มระบบจัดเก็บข้อมูลและช่วยให้ลูกค้าพร้อมรับมือในการปรับเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยีระบบจัดเก็บข้อมูลใหม่โดยไม่ต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมด มีเวลาทำงานอย่างต่อเนื่องมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการจัดการน้อยลง ทั้งนี้สิ่งที่เป็นที่ประจักษ์ในปัจจุบันคือข้อมูลมักจะมีอายุยาวนานกว่าฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการจัดเก็บ และลูกค้าต้องการให้ข้อมูลพร้อมใช้งาน 100% ในระหว่างการย้ายข้อมูลไปยังฮาร์ดแวร์ใหม่ โดยทั่วไปแล้วกระบวนการทำงานจะเริ่มจาการนำฮาร์ดแวร์ใหม่เข้ามาใช้งาน จากนั้นจึงเริ่มการย้ายข้อมูล แล้วจึงปิดการใช้งานและนำฮาร์ดแวร์เก่าออกจากระบบ ซึ่งสามารถเลือกโหนดของเซิร์ฟเวอร์ HCP หรือระบบจัดเก็บข้อมูลส่วนหลังสำหรับการรีเฟรชเทคโนโลยีได้ โดยการบันทึกข้อมูลไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลเก่าจะหยุดลงเมื่อการรีเฟรชเทคโนโลยีเริ่มขึ้น จากนั้นออบเจ็กต์ในระบบจัดเก็บข้อมูลเก่าจะย้ายไปยังระบบจัดเก็บข้อมูลใหม่โดยอัตโนมัติและไม่ต้องหยุดการทำงานของระบบ การยืนยันจากลูกค้า การยืนยันประสิทธิภาพไม่ได้มาจากเอกสารรายงานหรือโพสต์จากบล็อก แต่มาจากลูกค้าที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ของเรา โดย 4 ใน 5แห่งของธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ 4 ใน 5 แห่งของบริษัทประกันภัยชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ใช้ Hitachi Content Platform เพื่อสนับสนุนให้การแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับ IDC Technology Assessment เกี่ยวกับ Hitachi Content Platform สามารถดาวน์โหลดได้จากลิงค์http://idcdocserv.com/US41157115

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ