กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--IR network
FER ฉลุย! ผู้ถือหุ้นไฟเขียวคลอด FER-W3 จำนวนรวมไม่เกิน 770.95 ล้านหุ้น แจกฟรีผู้ถือหุ้นเดิมอัตราส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ ด้านหัวเรือใหญ่ใจบุญ "ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ" เผยนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและรองรับการขยายสาขาปั๊มแก๊ส LPG จำนวน 5-10 สาขาต่อปี เพื่อสร้างฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพของบริษัทและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนและผู้ถือหุ้นในอนาคต
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน) (FER) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 3 (FER-W3) รวมจำนวนไม่เกิน 770,953,439 หน่วย โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิและหากคำนวณแล้วมีเศษของใบสำคัญแสดงสิทธิต่ำกว่า 1 หน่วย ให้ปัดเศษดังกล่าวทิ้งทั้งจำนวน โดยมีราคาเสนอขายต่อหน่วยเท่ากับ 0 (ศูนย์) บาท
นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 794,603,833 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 2,478,290,450 บาท เป็น 3,272,894,283 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 794,603,833 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรุ่นที่ 3 (FER-W3) จำนวนไม่เกิน 770,953,439 หุ้น ,รองรับการปรับราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิสำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 1 (FER-W1) จำนวนไม่เกิน 15,440,001 หุ้น และรองรับการปรับราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิสำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 2 (FER-W2) จำนวนไม่เกิน 8,210,393 หุ้น
รวมทั้งลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 966,509,424 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 3,444,799,874 บาท เป็น 2,478,290,450 บาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทจากการเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) จำนวน 644,339,615 และหุ้นจดทะเบียนที่ไม่ได้รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของรุ่นที่ 2 (FER-W2) จำนวน 322,169,809 หุ้น
"เงินที่ได้รับจากการออก FER-W3 บริษัทฯจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งเพื่อลงทุนตามแผนในการขยายสาขาปั๊มแก๊ส LPG จำนวน 5-10 สาขาต่อปี ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งทางการเงิน ทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน และผู้ถือหุ้นในระยะยาวอีกด้วย"ดร.ประสิทธิ์ กล่าวในที่สุด