ลิกซิล เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ ทอสเท็ม ลุยเจาะกลุ่มตลาดอาคารสูง และกลุ่มตกแต่งเพิ่ม มั่นใจผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม ตอบโจทย์การใช้งานในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ข่าวอสังหา Thursday May 11, 2017 16:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--อเกต คอมมิวนิเคชั่น บมจ.ลิกซิล (ประเทศไทย) ในเครือ ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) ในงานสถาปนิก' 60 พร้อมวางเป้าเจาะตลาดใหม่เพิ่มเติม ส่ง ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสุดหรู ซีรี่ส์ใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าอาคารสูง พร้อมรุกตลาดตกแต่งอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวการ์เดนรูม ห้องกระจกสำเร็จรูปเพื่อต่อเติมเป็นห้องเสริมจากตัวบ้าน รั้วและประตูรั้วอะลูมิเนียมสำเร็จรูป ที่โดดเด่นในเรื่องความแข็งแรงและน้ำหนักเบา มั่นใจผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม สามารถตอบโจทย์การใช้งานในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมวางเป้าการเติบโตของทอสเท็มในปี 2560 ที่สองดิจิท นายสิทธิรัฐ วัชราภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิกซิล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือ ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ทอสเท็ม (TOSTEM) เป็นแบรนด์อยู่ภายใต้เครือ บริษัท ลิกซิล กรุ๊ป ซึ่งมีการดำเนินงานในกว่า 35 ประเทศทั่วโลก ในประเทศไทย ทอสเท็ม คือแบรนด์ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทสำหรับอาคาร นับตั้งแต่ประตูและหน้าต่างอะลูมิเนียม ตลอดจนผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่งและต่อเติมทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยได้รับความไว้วางใจจากบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทอสเท็มในโครงการต่างๆ มานานกว่า 10 ปี ในส่วนของ บริษัท ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) มีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม และเป็นผู้ผลิตสินค้า แบรนด์ทอสเท็ม มาตั้งแต่ปี 2530 โดยสินค้าที่ผลิตส่วนใหญ่ส่งกลับไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่น คิดเป็น 95% ของการผลิต แต่ในช่วง 10 ปี หลังเริ่มทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้นโดย เน้นการผลิตในส่วน Housing เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นายสิทธิรัฐ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมได้รับความนิยมและใช้อย่างแพร่หลาย เห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมภายนอกอาคารได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับในประเทศญี่ปุ่น ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับภายนอกอาคารนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากอะลูมิเนียม มองว่าในประเทศไทยมีแนวโน้มของเทรนด์ไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจุบันเราพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมที่มีคุณภาพดีและมีประสิทธิภาพการป้องกันที่ดีกว่าเดิม เพราะอะลูมิเนียมมีน้ำหนักเบา สวยงามและทนทานต่อแสงแดดจัดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับประเทศไทย จึงได้ผลักดันผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะรุกไปยังกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยได้เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นครั้งแรกในงานสถาปนิก'60 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้ประกอบไปด้วย • GRANTS ซีรีย์ประตูหน้าต่างรุ่นเรือธง สุดหรู ภายใต้แบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) ออกแบบสำหรับการติดตั้งบนอาคารสูงโดยเฉพาะ ด้วยนวัตกรรมดีไซน์ของกรอบบานแบบสลิมเพิ่มพื้นที่กระจก เมื่อปิดบานจะเพิ่มมุมมองให้กว้างกว่าในแบบพาโนรามา อีกทั้งยังแข็งแรงและมีประสิทธิภาพการป้องกันสูง ผ่านการทดสอบด้วยมาตรฐาน ASTM สามารถต้านทานแรงลมที่ระดับ 2000 Pa โครงสร้างป้องกันน้ำฝนรั่ว 2 ชั้น และป้องกันการรั่วไหลของอากาศ ดีไซน์สวยงามรองรับการไลฟ์สไตล์การใช้งานด้วย 5 สีมาตรฐาน ได้แก่ สีขาว สีซิลเวอร์ สีไชน์เกรย์ สีน้ำตาล สีดำ และรองรับคำสั่งพิเศษในกลุ่มสีพาวเดอร์ โคท • การ์เดนรูม (GARDEN ROOM) ดีไซน์เป็นห้องที่มีผนัง 3 ด้าน ติดตั้งประตูบานเฟี้ยมกระจกเพื่อเปิด-ปิด ใช้ติดตั้งต่อจากตัวอาคารหลัก ให้ความปลอดโปร่ง พร้อมหลังคาโพลีคาร์บอเนตใส เพื่อเพิ่มมุมมองใหม่ของการพักผ่อน และให้ทุกคนในครอบครัวได้ใกล้ชิดธรรมชาติภายนอกได้อย่างเต็มที่ โครงหลังคาและเสา เป็นโปรไฟล์อะลูมิเนียม มีให้เลือก 3 โทนสี ได้แก่ โทนสีขาว โทนสีเทา และโทนสีน้ำตาล • ประตูรั้ว – รั้วอะลูมิเนียมสำเร็จรูป (Aluminium Fence & Gate) ผลิตจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูงของทอสเท็ม ดีไซน์สไตล์มินิมอลที่เรียบง่าย แต่คงความทันสมัยและสวยงาม แข็งแรง น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิมเหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง ดูแลรักษาง่าย ติดตั้งง่าย รองรับการติดตั้งระบบมอเตอร์ และ สีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีซิลเวอร์ สีไชน์เกรย์ สีน้ำตาล สีดำ นายสิทธิรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด คือ ประตูหน้าต่าง ซีรี่ย WE70 สำหรับที่พักอาศัยแนวราบ (mass segment product) ปีที่ผ่านมายอดขายเราเติบโตตามเป้าในกลุ่มลูกค้าที่พักอาศัยในแนวราบ และอาคาร low-rise สำหรับในปีนี้เรายังคงตั้งเป้าเพิ่มยอดขายมากขึ้นในตลาดที่พักอาศัยแนวราบ และวางเป้าหมายในการขยายตลาดไปยังกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดอาคารสูง กลุ่มผลิตภัณฑ์ตกแต่งภายนอกอาคาร และเจาะตลาดค้าปลีก เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้โฟกัสไปยังตลาด B2B และจัดโปรโมชั่นสำหรับงานโครงการต่างๆ ให้กับทางนักออกแบบ เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาด้วย ทั้งนี้เรามีแผนโปรโมทไปยังกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ด้วย โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายในส่วนของทอสเท็มรวมทั้งปีที่ 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 620 ล้านบาท และมียอดขายรวมทั้งบริษัทฯ ที่ 5,000 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ