กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,226.70-1,232.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM17 อยู่ที่ 20,280 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,350 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.04 น.ของวันที่ 15/05/2560)
แนวโน้มวันที่ 16 พฤษภาคม 2560
ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยชะลอตัวลงในทิศทางเดียวกับ ดัชนีราคาผู้บริโภคที่น่าผิดหวังทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาคค้าปลีกและเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเพราะหากลดลงอีกอย่างไม่คาดคิดก็จะกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์และราคาทองคำอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อไป เพราะนักลงทุนยังเตรียมตัวรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนมิ.ย. ขณะที่การคำนวณของรอยเตอร์ และข้อมูลของคณะกรรมการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสหรัฐพบว่า สถานะซื้อสุทธิดอลลาร์ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ค.ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. 2559 ขณะที่มีสถานะซื้อสุทธิยูโรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. 2557 เนื่องจากนักลงทุนรู้สึกคลายกังวล หลังจาก นายเอ็มมานูเอล มาครงชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประเด็นดังกล่าวได้เพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น ประกอบกับ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อ ข้อมูลภาคการผลิต และการลงทุนที่น่าผิดหวังของจีน เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวรอบใหม่ ประกอบกับเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า ประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธ พิสัยกลาง-ไกลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สำหรับมุมมองต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,235-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ อาจทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,222-1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้น เข้าซื้อขายในลักษณะการเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอการตั้งฐานของราคาจึงเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงwไม่หลุดแนวรับโซน 1,222-1,213 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวเพื่อสะสมกำลัง โดยหากมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,235-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,222 (20,000บาท) 1,213 (19,850บาท) 1,207 (19,750บาท)
แนวต้าน 1,235 (20,250บาท) 1,245 (20,400บาท) 1,253 (20,500บาท)
GOLD FUTURES (GFM17)
แนวรับ 1,222 (20,140บาท) 1,213 (19,990บาท) 1,207 (19,890บาท)
แนวต้าน 1,235 (20,350บาท) 1,245 (20,520บาท) 1,253 (20,650บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999